โทรศัพท์เครื่องร้อนเร็วเกิดจากอะไร

2 การดู

สมาร์ทโฟนร้อนจัดอาจเกิดจากการใช้งานแอปพลิเคชันที่กินทรัพยากรสูง เช่น เกม 3 มิติ หรือการสตรีมมิ่งวิดีโอความละเอียดสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน ประกอบกับสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิสูง เช่น การใช้งานกลางแจ้งในวันที่อากาศร้อนจัด ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานหนักขณะชาร์จแบตเตอรี่ เพื่อยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไขปัญหาสมาร์ทโฟนร้อนจี๋: สาเหตุที่มากกว่าแค่เกมและวิธีดูแลให้เครื่องเย็นใจ

อาการ “โทรศัพท์ร้อน” เป็นปัญหาคลาสสิกที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนทุกคนต้องเคยเจอ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ แต่สาเหตุที่ทำให้สมาร์ทโฟนของเรากลายเป็นเตาไฟฟ้าพกพาได้นั้น มีอะไรที่ซับซ้อนกว่าแค่การเล่นเกมกราฟิกจัดเต็ม หรือดูหนัง HD ม้วนเดียวจบกันเสียอีก

แน่นอนว่า การใช้งานแอปพลิเคชันที่กินทรัพยากรสูงอย่างเกม 3 มิติ หรือการสตรีมมิ่งวิดีโอความละเอียดสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน ภายใต้สภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิสูง (เช่น แดดเปรี้ยงๆ กลางวันแสกๆ) ถือเป็นปัจจัยกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เครื่องร้อนเร็วขึ้น แต่ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่เราอาจมองข้ามไป และส่งผลต่ออุณหภูมิของสมาร์ทโฟนของเราโดยไม่รู้ตัว

ปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม:

  • การทำงานเบื้องหลัง: แอปพลิเคชันบางตัวถึงแม้จะไม่ได้เปิดใช้งานอยู่ แต่ก็ยังคงทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่ออัปเดตข้อมูล หรือส่งการแจ้งเตือนตลอดเวลา ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ล้วนใช้พลังงานและก่อให้เกิดความร้อนทั้งสิ้น
  • แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ: แบตเตอรี่ที่เริ่มเสื่อมสภาพจะทำงานหนักกว่าปกติเพื่อให้จ่ายพลังงานได้เท่าเดิม ส่งผลให้เกิดความร้อนสะสมมากขึ้น
  • การอัปเดตซอฟต์แวร์: บางครั้ง การอัปเดตระบบปฏิบัติการ หรือแอปพลิเคชัน อาจมีข้อผิดพลาด หรือบั๊ก (Bug) ที่ทำให้เครื่องทำงานหนักกว่าปกติ ซึ่งส่งผลให้เครื่องร้อนได้เช่นกัน
  • มัลแวร์: โปรแกรมที่เป็นอันตรายเหล่านี้สามารถแอบทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่อขโมยข้อมูล หรือใช้ทรัพยากรของเครื่องในการขุดเหรียญคริปโต ทำให้เครื่องร้อนและแบตเตอรี่หมดเร็ว
  • เคสโทรศัพท์: เคสโทรศัพท์บางชนิด โดยเฉพาะเคสที่ทำจากวัสดุที่ไม่ระบายความร้อน อาจทำให้ความร้อนสะสมอยู่ภายในเครื่องมากขึ้น

วิธีดูแลให้สมาร์ทโฟนเย็นใจ (และใช้งานได้นานๆ):

  • ปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้งาน: ปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานอยู่เบื้องหลัง เพื่อลดภาระการทำงานของเครื่อง
  • ปรับความสว่างหน้าจอ: ลดความสว่างหน้าจอลง หรือเปิดโหมดปรับความสว่างอัตโนมัติ เพื่อประหยัดพลังงานและลดความร้อน
  • ปิด Wi-Fi และ Bluetooth เมื่อไม่ใช้งาน: สัญญาณ Wi-Fi และ Bluetooth ที่เปิดทิ้งไว้ตลอดเวลา จะทำให้เครื่องทำงานอยู่ตลอดเวลาเพื่อค้นหาสัญญาณ
  • หลีกเลี่ยงการใช้งานหนักขณะชาร์จแบตเตอรี่: การใช้งานหนักขณะชาร์จแบตเตอรี่ จะทำให้เครื่องร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจส่งผลเสียต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่
  • ถอดเคสโทรศัพท์: หากรู้สึกว่าเครื่องร้อนเกินไป ให้ลองถอดเคสโทรศัพท์ออก เพื่อให้เครื่องสามารถระบายความร้อนได้ดีขึ้น
  • ตรวจสอบแอปพลิเคชันที่น่าสงสัย: สังเกตการใช้งานแอปพลิเคชันที่ผิดปกติ หากพบแอปพลิเคชันใดที่ใช้พลังงานมากเกินไป หรือทำงานอยู่เบื้องหลังตลอดเวลา ให้ลองลบออก
  • อัปเดตซอฟต์แวร์อยู่เสมอ: การอัปเดตซอฟต์แวร์อยู่เสมอ จะช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด หรือบั๊กต่างๆ ที่อาจทำให้เครื่องทำงานหนักกว่าปกติ
  • รีสตาร์ทเครื่อง: การรีสตาร์ทเครื่องเป็นประจำ จะช่วยเคลียร์หน่วยความจำ และปิดแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องได้
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง: หลีกเลี่ยงการวางโทรศัพท์ไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงโดยตรงเป็นเวลานาน
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากลองทำตามวิธีต่างๆ แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรนำเครื่องไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ

การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้สมาร์ทโฟนของเรา “ร้อนจี๋” และการปรับพฤติกรรมการใช้งาน รวมถึงการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี จะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ และทำให้เราใช้งานสมาร์ทโฟนได้อย่างมีความสุขมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะระเบิดคามือ!