โหมดปิดเสียง iPhone อยู่ตรงไหน

ค้นหาความเงียบสงบ: โหมดปิดเสียง iPhone อยู่ตรงไหนกันแน่?

ท่ามกลางเสียงแจ้งเตือนที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตประจำวัน การค้นหาความเงียบสงบกลายเป็นสิ่งล้ำค่า และ iPhone ของคุณก็มีเครื่องมือที่ช่วยให้คุณหลีกหนีจากความวุ่นวายนั้นได้ นั่นคือ “โหมดปิดเสียง” หรือ “Silent Mode” ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ช่วยให้คุณควบคุมเสียงของ iPhone ได้อย่างง่ายดาย

แต่สำหรับผู้ใช้งาน iPhone รุ่นใหม่ๆ หรือผู้ที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้ iPhone เป็นครั้งแรก อาจสงสัยว่าปุ่มหรือตัวเลือกสำหรับโหมดปิดเสียงนั้นซ่อนอยู่ที่ไหนกันแน่? บทความนี้จะนำคุณไปสำรวจตำแหน่งของโหมดปิดเสียงบน iPhone แต่ละรุ่น พร้อมเคล็ดลับเพิ่มเติมที่จะช่วยให้คุณใช้งานโหมดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับ iPhone รุ่นใหม่ล่าสุด: อำนาจอยู่ในมือคุณด้วยปุ่ม Action

iPhone รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับปุ่ม Action (Action button) ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการเข้าถึงโหมดปิดเสียงไปอย่างสิ้นเชิง แทนที่จะมีสวิตช์แยกต่างหากเหมือนรุ่นก่อนหน้า คุณสามารถตั้งค่าปุ่ม Action นี้ให้ทำหน้าที่ปิดเสียงได้อย่างง่ายดาย

วิธีตั้งค่าปุ่ม Action เพื่อปิดเสียง:

1. เปิดแอป “การตั้งค่า” (Settings) บน iPhone ของคุณ
2. เลื่อนลงมาแล้วแตะที่ “ปุ่ม Action” (Action Button)
3. ในหน้าจอ “ปุ่ม Action” คุณจะเห็นตัวเลือกต่างๆ ให้เลือก แตะที่ “ปิดเสียง” (Silent Mode)

เมื่อตั้งค่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่กดปุ่ม Action ค้างไว้ คุณก็จะสามารถสลับระหว่างโหมดเสียงและโหมดปิดเสียงได้อย่างรวดเร็ว

วิธีเปิด/ปิดโหมดปิดเสียงผ่านการตั้งค่า:

หากคุณไม่ได้ตั้งค่าปุ่ม Action ให้เป็นโหมดปิดเสียง หรือต้องการวิธีอื่นในการเข้าถึงโหมดนี้ คุณสามารถทำได้ผ่านการตั้งค่าดังนี้:

1. เปิดแอป “การตั้งค่า” (Settings) บน iPhone ของคุณ
2. แตะที่ “เสียงและการสั่น” (Sounds & Haptics)
3. ในหน้าจอ “เสียงและการสั่น” คุณจะพบตัวเลือก “ปิดเสียง” (Silent Mode) ให้สลับเปิด/ปิดตามต้องการ

สำหรับ iPhone รุ่นอื่นๆ: สวิตช์เล็กๆ ที่สร้างความแตกต่าง

สำหรับ iPhone รุ่นก่อนหน้าที่ไม่มีปุ่ม Action สวิตช์เล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่องทางด้านซ้ายคือเครื่องมือสำคัญในการควบคุมโหมดปิดเสียง

• เลื่อนสวิตช์ไปทางด้านหลัง (เห็นสีส้ม): นี่คือตำแหน่งของโหมดปิดเสียง เมื่อเลื่อนสวิตช์ไปทางด้านหลัง คุณจะเห็นแถบสีส้มแสดงขึ้น ซึ่งบ่งบอกว่า iPhone ของคุณอยู่ในโหมดปิดเสียงแล้ว การแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าจะไม่มีเสียงดังรบกวน
• เลื่อนสวิตช์ไปทางด้านหน้า: นี่คือตำแหน่งของโหมดเสียงปกติ เมื่อเลื่อนสวิตช์ไปทางด้านหน้า iPhone ของคุณจะส่งเสียงเมื่อมีการแจ้งเตือนหรือสายเรียกเข้า

เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อการใช้งานโหมดปิดเสียงอย่างมีประสิทธิภาพ:

• ตั้งค่า “ยกเว้นฉุกเฉิน” (Emergency Bypass): หากคุณต้องการให้บางรายชื่อสามารถโทรหาคุณได้แม้ในขณะที่อยู่ในโหมดปิดเสียง คุณสามารถตั้งค่า “ยกเว้นฉุกเฉิน” ในรายละเอียดผู้ติดต่อแต่ละรายได้ โดยเข้าไปที่แอป “รายชื่อ” (Contacts), เลือกรายชื่อที่ต้องการ, แตะ “แก้ไข” (Edit), เลื่อนลงมาที่ “เสียงเรียกเข้า” (Ringtone) หรือ “ข้อความ” (Text Tone) และเปิด “ยกเว้นฉุกเฉิน” (Emergency Bypass)
• ใช้ “ห้ามรบกวน” (Do Not Disturb): โหมดห้ามรบกวนเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์ ช่วยให้คุณปิดเสียงแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าในช่วงเวลาที่กำหนดได้ คุณสามารถตั้งค่าตารางเวลา หรือเปิดใช้งานด้วยตนเองได้จากศูนย์ควบคุม (Control Center)
• เข้าใจความแตกต่างระหว่าง “ปิดเสียง” กับ “ห้ามรบกวน”: “ปิดเสียง” จะปิดเสียงการแจ้งเตือน แต่ยังแสดงการแจ้งเตือนบนหน้าจอ ส่วน “ห้ามรบกวน” จะปิดทั้งเสียงและไม่แสดงการแจ้งเตือนบนหน้าจอ (ยกเว้นการตั้งค่าพิเศษที่คุณกำหนด)

ไม่ว่าคุณจะใช้ iPhone รุ่นใด การเข้าใจตำแหน่งและวิธีการใช้งานโหมดปิดเสียงจะช่วยให้คุณควบคุมเสียงของ iPhone ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างพื้นที่แห่งความเงียบสงบได้ทุกที่ทุกเวลา