ไอโฟนเปิดเสียงยังไง

0 การดู

วิธีแก้ไขปัญหาเสียง iPhone: ตรวจสอบสถานะ อย่ารบกวน (Do Not Disturb) ที่ศูนย์ควบคุม (Control Center) หากไอคอนรูปพระจันทร์เสี้ยวมีสีเหลือง แสดงว่าเปิดใช้งานอยู่ ให้แตะเพื่อปิด หรือตรวจสอบการตั้งค่าเสียงในแอปพลิเคชันที่ต้องการ เพื่อปรับระดับเสียงให้ดังขึ้น ลองรีสตาร์ทเครื่องหากยังไม่ได้ผล

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

iPhone เสียงหายไปไหน? แก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยตัวเองง่ายๆ

ปัญหาเสียงหายใน iPhone เป็นเรื่องที่สร้างความหงุดหงิดได้ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเสียงเรียกเข้า เสียงเพลง หรือเสียงแจ้งเตือนต่างๆ หากหายไป ก็ทำให้พลาดการติดต่อสื่อสารที่สำคัญ หรือเสียอรรถรสในการใช้งานไปได้ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจวิธีแก้ไขปัญหาเสียงหายใน iPhone แบบเบื้องต้นด้วยตัวเองง่ายๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาช่าง

ตรวจสอบสถานะ “อย่ารบกวน” (Do Not Disturb)

สิ่งแรกที่ควรตรวจสอบคือ ฟีเจอร์ “อย่ารบกวน” เพราะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ iPhone เงียบเสียงโดยที่เราไม่รู้ตัว

  • วิธีตรวจสอบ: ปัดหน้าจอลงจากมุมขวาบนเพื่อเปิด “ศูนย์ควบคุม” (Control Center) มองหาไอคอนรูปพระจันทร์เสี้ยว หากไอคอนมีสีม่วงหรือสีไฮไลท์ แสดงว่าฟีเจอร์ “อย่ารบกวน” กำลังเปิดใช้งานอยู่
  • วิธีแก้ไข: แตะที่ไอคอนรูปพระจันทร์เสี้ยวเพื่อปิดใช้งาน หากปิดแล้วไอคอนจะกลับเป็นสีเทา

สำรวจระดับเสียงและสวิตช์ปิดเสียง

หลายครั้งที่เราอาจเผลอลดระดับเสียงลงจนสุด หรือเผลอไปเปิดสวิตช์ปิดเสียงโดยไม่รู้ตัว

  • วิธีตรวจสอบระดับเสียง: ลองกดปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงที่ด้านข้างของ iPhone เพื่อตรวจสอบระดับเสียงบนหน้าจอ ถ้าแถบแสดงระดับเสียงไม่ปรากฏขึ้น แสดงว่าอาจมีปัญหาที่ปุ่มกด
  • วิธีตรวจสอบสวิตช์ปิดเสียง: มองหาปุ่มเล็กๆ ที่ด้านข้างของ iPhone เหนือปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง สวิตช์นี้คือสวิตช์ปิดเสียง หากสวิตช์เลื่อนไปทางด้านหลัง (เห็นแถบสีส้ม) แสดงว่าปิดเสียงอยู่ ให้เลื่อนสวิตช์ไปด้านหน้าเพื่อเปิดเสียง

ตรวจสอบการตั้งค่าเสียงภายในแอปพลิเคชัน

บางครั้งปัญหาเสียงอาจไม่ได้เกิดจาก iPhone โดยรวม แต่เกิดจากแอปพลิเคชันบางตัวที่เราใช้งานอยู่

  • วิธีตรวจสอบ: ลองเปิดแอปพลิเคชันที่มีปัญหา แล้วเข้าไปที่การตั้งค่าของแอปพลิเคชันนั้นๆ มองหาการตั้งค่าเกี่ยวกับเสียง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระดับเสียงถูกปรับไว้ในระดับที่เหมาะสม และไม่ได้ปิดเสียงไว้

รีสตาร์ท iPhone

การรีสตาร์ท iPhone เป็นวิธีแก้ไขปัญหาพื้นฐานที่ได้ผลเสมอ เพราะจะช่วยเคลียร์หน่วยความจำและรีเฟรชระบบใหม่

  • วิธีรีสตาร์ท: วิธีการรีสตาร์ท iPhone จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นของ iPhone ที่คุณใช้งาน หากคุณไม่แน่ใจ สามารถค้นหาวิธีการรีสตาร์ท iPhone รุ่นของคุณได้ง่ายๆ บนอินเทอร์เน็ต

หากลองทุกวิธีแล้วยังไม่ได้ผล

หากคุณได้ลองทำตามวิธีแก้ไขเบื้องต้นทั้งหมดแล้ว แต่ iPhone ของคุณยังคงไม่มีเสียง อาจเป็นไปได้ว่ามีปัญหาที่ซับซ้อนกว่านั้น เช่น ปัญหาเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ หรือข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์ ในกรณีนี้ ขอแนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการ Apple หรือผู้เชี่ยวชาญด้าน iPhone เพื่อทำการตรวจสอบและแก้ไขต่อไป

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่า iPhone ของคุณได้อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ
  • ลองทำความสะอาดช่องลำโพงของ iPhone อย่างระมัดระวัง เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่อาจอุดตันอยู่
  • หากคุณใช้หูฟังหรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ลองถอดออกแล้วตรวจสอบดูว่าเสียงกลับมาเป็นปกติหรือไม่

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาเสียงหายใน iPhone ของคุณได้ หากมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เลยครับ