ไอโฟนโดนขโมยทำยังไง

0 การดู

หากพบว่า iPhone หรือ iPad สูญหายหรือถูกขโมย รีบล็อกเครื่องทันทีผ่านแอป Find My เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลบัญชี ควรแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแจ้งหมายเลข IMEI เพื่อติดตามตัวเครื่องและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อย่าลืมเปลี่ยนรหัสผ่าน Apple ID และบัญชีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เมื่อ iPhone หาย… ใจเย็นไว้ แล้วทำตามนี้! (ฉบับอัปเดต 2024)

การที่ iPhone หาย ไม่ว่าจะถูกขโมยหรือเผลอทำหล่น เป็นเรื่องที่น่าตกใจและทำให้รู้สึกเสียใจ เพราะนอกจากมูลค่าของตัวเครื่องแล้ว ยังมีข้อมูลส่วนตัวสำคัญมากมายที่อาจถูกเข้าถึงและนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ แต่ไม่ต้องตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะมีขั้นตอนที่คุณสามารถทำได้เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้เครื่องคืน และป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

1. ตั้งสติ แล้วเช็คให้ละเอียด:

ก่อนจะรีบแจ้งความหรือทำอะไรใหญ่โต ลองสูดหายใจลึกๆ แล้วคิดทบทวนอีกครั้ง ลองนึกดูว่าคุณได้วาง iPhone ไว้ที่ไหนล่าสุด อาจจะตกหล่นตามซอกหลืบในบ้าน ในรถ หรือที่ทำงานหรือไม่? ลองโทรเข้าเบอร์ตัวเองจากโทรศัพท์เครื่องอื่น หากได้ยินเสียงเรียกเข้าใกล้ๆ ก็อาจจะเจอได้ง่ายๆ

2. ล็อกเครื่องด่วนจี๋ ผ่าน “Find My (ค้นหาของฉัน)”:

นี่คือหัวใจสำคัญ! ไม่ว่าคุณจะแน่ใจว่า iPhone ถูกขโมย หรือแค่ยังหาไม่เจอ ให้รีบเข้าแอป “Find My” ผ่านอุปกรณ์ Apple เครื่องอื่น (เช่น iPad, MacBook) หรือผ่านเว็บไซต์ iCloud.com บนคอมพิวเตอร์เครื่องไหนก็ได้

  • เปิด “โหมดสูญหาย” (Lost Mode): ฟีเจอร์นี้จะล็อกหน้าจอด้วยรหัสผ่านทันที และแสดงข้อความบนหน้าจอให้คนที่พบเห็นสามารถติดต่อคุณได้ คุณสามารถใส่เบอร์โทรศัพท์สำรอง หรือข้อความที่แสดงความหวังว่าเครื่องจะถูกส่งคืนได้ด้วย
  • ติดตามตำแหน่งที่ตั้ง: แอป “Find My” จะแสดงตำแหน่งล่าสุดของ iPhone ของคุณบนแผนที่ ทำให้คุณสามารถติดตามได้ว่าเครื่องอยู่ที่ไหน หากเครื่องถูกเคลื่อนย้าย คุณจะได้รับการแจ้งเตือน
  • ลบข้อมูลจากระยะไกล (Erase iPhone): หากคุณมั่นใจแล้วว่า iPhone ถูกขโมย และไม่มีโอกาสได้คืน รวมถึงกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวมากที่สุด ให้เลือก “ลบ iPhone” (Erase iPhone) ซึ่งจะลบข้อมูลทั้งหมดออกจากเครื่องอย่างถาวร ข้อควรระวัง: หากคุณลบข้อมูลแล้ว คุณจะไม่สามารถติดตามตำแหน่ง iPhone ผ่าน “Find My” ได้อีกต่อไป ดังนั้นควรตัดสินใจอย่างรอบคอบ

3. แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมหลักฐานสำคัญ:

การแจ้งความเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย และอาจช่วยให้คุณได้ iPhone คืนได้ หากตำรวจสามารถติดตามเครื่องได้ สิ่งที่ต้องเตรียมไปแจ้งความ:

  • สำเนาบัตรประชาชน
  • รายละเอียดเกี่ยวกับ iPhone: รุ่น, สี, ความจุ, รหัสผ่าน, Apple ID
  • หมายเลข IMEI: ซึ่งเป็นหมายเลขประจำเครื่องที่ไม่ซ้ำใคร คุณสามารถค้นหาหมายเลข IMEI ได้จากกล่อง iPhone เดิม, ใบเสร็จซื้อ หรือจาก Apple ID (หากคุณเคยเชื่อมต่อ iPhone กับ Apple ID นี้ไว้)
  • หลักฐานการเป็นเจ้าของ: เช่น ใบเสร็จซื้อ, สัญญาซื้อขาย

4. เปลี่ยนรหัสผ่านทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง:

เพื่อความปลอดภัยสูงสุด เปลี่ยนรหัสผ่าน Apple ID ของคุณทันที รวมถึงรหัสผ่านบัญชีอื่นๆ ที่คุณใช้บน iPhone เช่น อีเมล, โซเชียลมีเดีย, ธนาคารออนไลน์ เพราะหากคนร้ายเข้าถึง iPhone ได้ อาจพยายามเข้าถึงบัญชีเหล่านี้ด้วย

5. ติดต่อผู้ให้บริการเครือข่าย:

แจ้งผู้ให้บริการเครือข่าย (เช่น AIS, True, DTAC) ให้ระงับการใช้งาน SIM Card ของคุณ เพื่อป้องกันการโทรออก หรือการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่อาจทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น

6. ระวังมิจฉาชีพ:

หลังจาก iPhone หาย คุณอาจได้รับการติดต่อจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ, บริษัทประกัน หรือผู้ที่พบ iPhone ของคุณ โดยอาจขอข้อมูลส่วนตัว หรือรหัสผ่านต่างๆ ระมัดระวังให้ดี อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับใครง่ายๆ หากไม่แน่ใจให้ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • เปิดใช้งาน “Two-Factor Authentication” (การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย) บน Apple ID: เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงบัญชีของคุณ
  • สำรองข้อมูล iPhone เป็นประจำ: หาก iPhone หาย อย่างน้อยคุณก็ยังมีข้อมูลสำรองที่สามารถกู้คืนได้
  • ทำประกัน iPhone: พิจารณาทำประกัน iPhone เพื่อคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการสูญหายหรือถูกขโมย

สรุป:

แม้ว่า iPhone จะหายไปแล้ว อย่าเพิ่งหมดหวัง ทำตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างใจเย็นและรอบคอบ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้เครื่องคืน และป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากข้อมูลส่วนตัวของคุณ ขอให้คุณโชคดี!