Clear cache ตรงไหน

2 การดู

วิธีล้างแคชใน Chrome บนมือถือ ง่ายๆ เพียงเปิด Chrome แล้วแตะไอคอนสามจุด เลือก ประวัติ จากนั้นแตะ ล้างข้อมูลการท่องเว็บ เลือกช่วงเวลาและประเภทข้อมูลที่ต้องการลบ เช่น คุกกี้ ข้อมูลไซต์ และรูปภาพ สุดท้ายแตะ ล้างข้อมูล แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เปิดโลกสมาร์ทโฟนให้ลื่นไหล: เคล็ดลับการจัดการ Cache บน Chrome (ฉบับเจาะลึก)

การท่องโลกอินเทอร์เน็ตบนมือถือสมาร์ทโฟนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว และ Google Chrome ก็เป็นเบราว์เซอร์ยอดนิยมที่หลายคนเลือกใช้ แต่เคยสังเกตไหมว่านานวันเข้า Chrome บนมือถือของเราอาจเริ่มอืดอาด ทำงานช้าลง หรือกินพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากขึ้น สาเหตุหนึ่งที่มักถูกมองข้ามคือไฟล์ “แคช” ที่สะสมอยู่ภายใน

บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องแคชบน Chrome บนมือถืออย่างละเอียด พร้อมทั้งแนะนำวิธีการจัดการแคชอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณสามารถรักษาความลื่นไหลในการใช้งานและเพิ่มพื้นที่ว่างให้กับสมาร์ทโฟนของคุณได้อย่างง่ายดาย

แคช (Cache) คืออะไร? ทำไมต้องสนใจ?

แคชคือไฟล์ข้อมูลชั่วคราวที่เบราว์เซอร์ Chrome จัดเก็บไว้ขณะที่เราท่องเว็บไซต์ต่างๆ ไฟล์เหล่านี้อาจเป็นรูปภาพ, สคริปต์, หรือข้อมูลอื่นๆ ที่เว็บไซต์ใช้ เพื่อให้การโหลดเว็บไซต์ครั้งต่อไปเป็นไปอย่างรวดเร็ว

ข้อดีของแคช:

  • โหลดเว็บไซต์เร็วขึ้น: เมื่อเข้าชมเว็บไซต์เดิม แคชจะช่วยลดเวลาในการโหลดข้อมูล เนื่องจากไม่ต้องดาวน์โหลดใหม่ทั้งหมด
  • ลดการใช้ข้อมูล: ช่วยประหยัดปริมาณข้อมูลที่ใช้ในการท่องเว็บ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานบนเครือข่ายมือถือ

ข้อเสียของแคช (เมื่อสะสมมากเกินไป):

  • กินพื้นที่จัดเก็บข้อมูล: ไฟล์แคชที่สะสมเป็นจำนวนมาก อาจทำให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนมือถือเหลือน้อยลง
  • ประสิทธิภาพลดลง: แคชที่มากเกินไปอาจทำให้เบราว์เซอร์ทำงานช้าลง โดยเฉพาะเมื่อเปิดหลายแท็บพร้อมกัน
  • แสดงผลข้อมูลเก่า: บางครั้งแคชอาจทำให้ Chrome แสดงผลข้อมูลเก่าของเว็บไซต์ แม้ว่าเว็บไซต์นั้นจะมีการอัปเดตแล้วก็ตาม
  • ปัญหาด้านความปลอดภัย: ในบางกรณี แคชอาจถูกใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมการท่องเว็บของเรา

วิธีการจัดการแคชบน Chrome (ฉบับละเอียด):

นอกเหนือจากวิธีพื้นฐานที่กล่าวถึงข้างต้น (เปิด Chrome > แตะไอคอนสามจุด > ประวัติ > ล้างข้อมูลการท่องเว็บ) เรามาดูรายละเอียดและเทคนิคเพิ่มเติมในการจัดการแคชกัน:

1. การเลือกล้างข้อมูลอย่างชาญฉลาด:

  • ช่วงเวลา: พิจารณาเลือกว่าจะล้างข้อมูลในช่วงเวลาใด เช่น “ชั่วโมงที่ผ่านมา”, “24 ชั่วโมงที่ผ่านมา”, “7 วันที่ผ่านมา”, “4 สัปดาห์ที่ผ่านมา” หรือ “ตั้งแต่เริ่มต้น” หากไม่แน่ใจ ควรเลือก “ตั้งแต่เริ่มต้น” เพื่อล้างแคชทั้งหมด
  • ประเภทข้อมูล: Chrome จะมีตัวเลือกให้เลือกว่าจะล้างข้อมูลประเภทใดบ้าง:
    • ประวัติการเข้าชม: รายการเว็บไซต์ที่เราเคยเข้าชม (ไม่เกี่ยวข้องกับแคชโดยตรง แต่ควรพิจารณาล้างควบคู่กันไปเพื่อความเป็นส่วนตัว)
    • คุกกี้และข้อมูลไซต์: ข้อมูลที่เว็บไซต์จัดเก็บไว้บนเครื่องของเรา เช่น ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ, การตั้งค่าส่วนตัว
    • รูปภาพและไฟล์แคช: ส่วนสำคัญที่เรากำลังพูดถึง คือไฟล์ข้อมูลชั่วคราวที่เบราว์เซอร์จัดเก็บไว้เพื่อเร่งความเร็วในการโหลดเว็บไซต์

คำแนะนำ: หากต้องการเพียงแค่ล้างแคชเพื่อแก้ปัญหาเบราว์เซอร์อืด อาจไม่จำเป็นต้องล้าง “ประวัติการเข้าชม” และ “คุกกี้และข้อมูลไซต์” แต่ถ้าต้องการล้างข้อมูลทั้งหมดเพื่อความเป็นส่วนตัว ก็สามารถเลือกทุกตัวเลือกได้

2. การจัดการแคชขั้นสูง:

Chrome ยังมีตัวเลือกการจัดการแคชที่ซ่อนอยู่ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่าน Developer Tools (เหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้ด้านเทคนิคเล็กน้อย):

  • Clear Site Data: วิธีนี้จะล้างแคชและข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์เฉพาะเจาะจง ช่วยแก้ปัญหาการแสดงผลข้อมูลเก่าของเว็บไซต์นั้นๆ ได้โดยไม่ต้องล้างแคชทั้งหมด
  • Disable Cache: (สำหรับนักพัฒนา) สามารถปิดการใช้งานแคชได้ชั่วคราว เพื่อให้ Chrome ดาวน์โหลดข้อมูลใหม่ทุกครั้งที่โหลดเว็บไซต์ เหมาะสำหรับการทดสอบและพัฒนาเว็บไซต์

3. แอปพลิเคชันเสริม (ทางเลือก):

มีแอปพลิเคชันมากมายบน Play Store ที่ช่วยในการจัดการแคชของแอปต่างๆ (รวมถึง Chrome) อย่างอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม ควรเลือกแอปที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงของแอปก่อนติดตั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านความปลอดภัย

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • รีสตาร์ท Chrome เป็นประจำ: การปิดและเปิด Chrome ใหม่เป็นระยะ จะช่วยล้างแคชที่ไม่จำเป็นและคืนประสิทธิภาพให้กับเบราว์เซอร์
  • อัปเดต Chrome ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด: Google มักจะปรับปรุงประสิทธิภาพและแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ ใน Chrome เวอร์ชันใหม่ๆ ดังนั้นควรตรวจสอบและอัปเดต Chrome ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ
  • ตรวจสอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูล: ตรวจสอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนมือถือของคุณเป็นประจำ หากใกล้เต็มแล้ว ให้พิจารณาลบแอปพลิเคชันที่ไม่ค่อยได้ใช้ หรือย้ายไฟล์ต่างๆ ไปยังที่จัดเก็บข้อมูลภายนอก (เช่น MicroSD card)

สรุป:

การจัดการแคชบน Chrome บนมือถือเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ การล้างแคชอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ Chrome ทำงานได้ลื่นไหล โหลดเว็บไซต์ได้รวดเร็ว และเพิ่มพื้นที่ว่างให้กับสมาร์ทโฟนของคุณ ลองนำเคล็ดลับต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นไปปรับใช้ แล้วคุณจะพบว่าการท่องโลกอินเทอร์เน็ตบนมือถือของคุณจะสนุกและราบรื่นยิ่งขึ้น!