Ctrl Alt D คีย์ลัด สำหรับโปรแกรม Microsoft Word ใช้ทำหน้าที่อะไร

2 การดู

คีย์ลัดลับใน Microsoft Word! ลองกด Ctrl+Alt+Shift+S เพื่อแสดงแถบเครื่องมือรูปภาพอย่างรวดเร็ว หรือ Ctrl+Alt+Shift+C เพื่อเปิดกล่องโต้ตอบเปลี่ยนแปลงสีตัวอักษรทันที เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณด้วยเคล็ดลับนี้!

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

Ctrl+Alt+D: คีย์ลัดอำพรางใน Microsoft Word ที่คุณอาจไม่เคยรู้

ในโลกของการพิมพ์งานเอกสารด้วย Microsoft Word ความเร็วและประสิทธิภาพคือสิ่งสำคัญ คีย์ลัดต่างๆ จึงเข้ามามีบทบาทในการช่วยให้เราทำงานได้รวดเร็วขึ้นอย่างมาก หลายคนอาจคุ้นเคยกับ Ctrl+C (คัดลอก), Ctrl+V (วาง), Ctrl+Z (ยกเลิก) แต่ยังมีคีย์ลัดอีกมากมายที่ซ่อนตัวอยู่รอให้เราค้นพบ หนึ่งในนั้นคือ Ctrl+Alt+D ซึ่งเป็นคีย์ลัดที่อาจจะไม่คุ้นหูนัก แต่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการจัดการกับเอกสารที่มีหมายเหตุหรือการแก้ไขจำนวนมาก

Ctrl+Alt+D ใน Microsoft Word ทำหน้าที่อะไร?

คีย์ลัด Ctrl+Alt+D จะช่วยให้คุณสามารถ เปลี่ยนมุมมองไปยังข้อความที่ถูกแก้ไข หรือ ไปยังส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงล่าสุดในเอกสาร ได้อย่างรวดเร็ว คล้ายกับการใช้ปุ่ม “Next Change” หรือ “Previous Change” ใน Ribbon แต่สะดวกกว่าเพราะไม่ต้องละมือจากแป้นพิมพ์

เมื่อไหร่ที่ Ctrl+Alt+D จะมีประโยชน์?

  • การตรวจแก้ไขเอกสาร: เมื่อคุณกำลังตรวจแก้ไขเอกสารที่ผู้อื่นได้ทำการแก้ไขมาก่อน คีย์ลัดนี้จะช่วยให้คุณสามารถเลื่อนไปดูจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาเลื่อนหาด้วยตัวเอง
  • การทำงานร่วมกัน: หากคุณกำลังทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานในเอกสารเดียวกัน และต้องการติดตามการแก้ไขของพวกเขา Ctrl+Alt+D จะช่วยให้คุณทราบว่าใครแก้ไขอะไร และแก้ไขตรงไหน
  • การเปรียบเทียบเอกสาร: แม้ว่าจะไม่ได้ใช้โดยตรงในการเปรียบเทียบเอกสาร แต่การใช้ Ctrl+Alt+D ร่วมกับการแสดงการเปลี่ยนแปลง (Track Changes) จะช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสองเวอร์ชันของเอกสารได้ง่ายขึ้น

ข้อแตกต่างจากคีย์ลัดอื่น:

แม้ว่า Microsoft Word จะมีคีย์ลัดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไข เช่น Ctrl+Shift+E (เปิด/ปิด Track Changes) หรือ Ctrl+Shift+Y (ไปยัง Change ที่เคยตรวจทานไปแล้ว) แต่ Ctrl+Alt+D จะเน้นไปที่การนำทางไปยังจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้มันแตกต่างและมีประโยชน์ในสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • เพื่อให้ Ctrl+Alt+D ทำงานได้อย่างถูกต้อง คุณจะต้องเปิดใช้งาน “Track Changes” ก่อน หากยังไม่ได้เปิดใช้งาน คีย์ลัดนี้อาจจะไม่มีผลใดๆ
  • คุณสามารถใช้ Ctrl+Alt+A เพื่อยอมรับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในเอกสารได้ ซึ่งเป็นอีกคีย์ลัดที่ช่วยประหยัดเวลาในการตรวจแก้ไข

สรุป:

แม้ว่า Ctrl+Alt+D อาจไม่ใช่คีย์ลัดที่ทุกคนรู้จัก แต่ก็เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ทำงานกับเอกสารที่มีการแก้ไขจำนวนมาก การเรียนรู้และนำไปใช้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและประหยัดเวลาได้เป็นอย่างดี ลองนำไปปรับใช้กับการทำงานของคุณแล้วคุณจะพบว่ามันเป็นคีย์ลัดลับที่คุ้มค่าแก่การเรียนรู้จริงๆ