Facetime กับ Video Call ต่างกันอย่างไร

ความแตกต่างระหว่าง FaceTime และวิดีโอคอล

ในปัจจุบัน เทคโนโลยีการสื่อสารได้ก้าวหน้าไปอย่างมาก ทำให้เราสามารถติดต่อพูดคุยกับผู้อื่นได้อย่างง่ายดายและไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่การสื่อสารทางไกลกลายเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก สองในบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการสื่อสารทางไกลด้วยภาพและเสียงก็คือ FaceTime และวิดีโอคอล ซึ่งมักถูกใช้สลับกัน แต่ทั้งสองบริการนี้มีความแตกต่างกันอยู่อย่างไรบ้าง มาดูกัน

FaceTime

FaceTime เป็นแอปพลิเคชันวิดีโอคอลที่พัฒนาโดย Apple ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2010 โดย FaceTime ใช้การเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi หรือข้อมูลมือถือเพื่อให้ผู้ใช้สามารถสื่อสารกันด้วยภาพและเสียงได้แบบเรียลไทม์ จุดเด่นที่สำคัญของ FaceTime คือสามารถใช้งานได้เฉพาะบนอุปกรณ์ของ Apple เท่านั้น เช่น iPhone, iPad และ Mac ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ไม่สามารถใช้ FaceTime เพื่อโทรหาบุคคลที่ใช้อุปกรณ์ที่ไม่ใช่ของ Apple

วิดีโอคอล

ในทางกลับกัน วิดีโอคอลเป็นคำทั่วไปที่ใช้เรียกการสื่อสารทางไกลด้วยภาพและเสียงแบบเรียลไทม์ โดยสามารถรองรับได้โดยแอปพลิเคชันต่างๆ ทั้งของ Apple และของบริษัทอื่น เช่น Zoom, Google Meet และ Microsoft Teams เป็นต้น วิดีโอคอลมีความยืดหยุ่นมากกว่า FaceTime เนื่องจากสามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ที่หลากหลาย ทั้งอุปกรณ์ของ Apple, Android และ Windows นอกจากนี้ วิดีโอคอลมักจะมาพร้อมกับฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การแชร์หน้าจอ, การบันทึกการประชุม และการเข้าร่วมการประชุมโดยไม่ต้องสมัครบัญชี

ข้อสรุป

โดยสรุปแล้ว FaceTime และวิดีโอคอลต่างก็เป็นบริการที่มีประโยชน์สำหรับการสื่อสารทางไกลด้วยภาพและเสียง อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างหลักระหว่างทั้งสองคือ FaceTime ใช้ได้เฉพาะบนอุปกรณ์ของ Apple ในขณะที่วิดีโอคอลสามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ที่หลากหลายกว่าและมักจะมีฟีเจอร์เพิ่มเติม การเลือกใช้บริการใดขึ้นอยู่กับความต้องการและความสะดวกของผู้ใช้เป็นหลัก