IPhone รุ่นไหนบ้างที่กันน้ําได้

iPhone รุ่นไหนกันน้ำได้? เรื่องจริงที่คุณควรรู้ก่อนนำไปแช่น้ำ

หลายคนอาจคิดว่า iPhone ทุกเครื่องกันน้ำได้หมด แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น การกันน้ำของ iPhone นั้นขึ้นอยู่กับรุ่นและมาตรฐานการกันน้ำที่ได้รับการรับรอง บทความนี้จะสรุปให้เห็นภาพชัดเจนว่า iPhone รุ่นไหนกันน้ำได้บ้าง พร้อมคำแนะนำในการใช้งานอย่างถูกวิธีเพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่อง

รุ่น iPhone ที่กันน้ำได้ (ตามมาตรฐาน IP)

ต้องเข้าใจก่อนว่า “กันน้ำ” ในที่นี้หมายถึงการป้องกันน้ำระดับหนึ่ง ไม่ใช่การกันน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ iPhone ที่กันน้ำได้จะระบุมาตรฐานการกันน้ำด้วยค่า IP (Ingress Protection) ซึ่งประกอบด้วยสองตัวเลข ตัวเลขแรกบ่งบอกถึงระดับการป้องกันฝุ่นละออง และตัวเลขที่สองบ่งบอกถึงระดับการป้องกันน้ำ

ในปัจจุบัน iPhone ที่กันน้ำได้ส่วนใหญ่จะได้รับการรับรองมาตรฐาน IP68 ซึ่งหมายความว่า:

• IP6: ป้องกันฝุ่นละอองได้อย่างสมบูรณ์
• IP8: สามารถกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง โดยทั่วไปจะระบุความลึกและระยะเวลาที่สามารถกันน้ำได้ เช่น ทนน้ำลึกได้สูงสุด 6 เมตร นาน 30 นาที (แต่ละรุ่นอาจมีค่าแตกต่างกัน)

รายชื่อรุ่น iPhone ที่กันน้ำ (โดยประมาณ):

การระบุรุ่น iPhone ที่กันน้ำได้อย่างแน่ชัดนั้นยาก เพราะ Apple อาจมีการปรับปรุงมาตรฐานการกันน้ำในรุ่นย่อยหรืออัพเดทซอฟต์แวร์ อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว iPhone รุ่นที่ออกหลังปี 2016 ขึ้นไป มักจะมีคุณสมบัติกันน้ำ แต่ควรตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Apple หรือคู่มือผู้ใช้ก่อนเสมอ สำหรับรุ่นที่ได้รับความนิยมและรู้จักกันดีว่ากันน้ำ ได้แก่ :

• iPhone 12 mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro, iPhone 12 Pro Max (IP68)
• iPhone 13 mini, iPhone 13, iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max (IP68)
• iPhone 14, iPhone 14 Plus, iPhone 14 Pro, iPhone 14 Pro Max (IP68)
• และรุ่นอื่นๆ ที่ตามมา (ควรตรวจสอบข้อมูลจาก Apple โดยตรง)

ข้อควรระวัง:

แม้ว่า iPhone จะกันน้ำได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถทนต่อน้ำได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ควรระมัดระวังในหลายๆ ด้านดังนี้:

• ความลึกและระยะเวลา: ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของ Apple เกี่ยวกับความลึกและระยะเวลาที่ iPhone สามารถอยู่ใต้น้ำได้ อย่าพยายามทดสอบขีดจำกัดการกันน้ำของเครื่อง
• ชนิดของน้ำ: น้ำเค็มและสารกัดกร่อนสามารถทำลายเครื่องได้ง่ายกว่าน้ำจืด ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำประเภทนี้
• ความเสียหายอื่นๆ: การตกกระแทกหรือการเสียหายอื่นๆ อาจทำให้คุณสมบัติการกันน้ำลดลง
• การบำรุงรักษา: ควรเช็ดให้แห้งหลังจากใช้งานในน้ำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายจากน้ำที่ค้างอยู่ภายในพอร์ตต่างๆ

สรุป:

iPhone หลายรุ่นมีคุณสมบัติกันน้ำ แต่การใช้งานอย่างระมัดระวังและการปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อยืดอายุการใช้งานและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ ก่อนนำ iPhone ลงน้ำ ควรตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Apple เสมอ เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของอุปกรณ์ของคุณ