Level Transmitter มีกี่แบบ

0 การดู

เครื่องส่งสัญญาณวัดระดับมีหลากหลายประเภท เช่น แบบวัดความดันไฮโดรสแตติกเหมาะสำหรับของเหลวที่มีความหนาแน่นคงที่ แบบความจุเหมาะสำหรับของเหลวและของแข็ง และแบบนำไฟฟ้าใช้หลักการวัดค่าการนำไฟฟ้าของของเหลว การเลือกชนิดขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของของไหลและสภาวะการใช้งานจริง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เลือก Level Transmitter ให้เหมาะสม: พิจารณาประเภทและคุณสมบัติของของไหล

การควบคุมระดับของเหลวหรือของแข็งในกระบวนการผลิตอุตสาหกรรมเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัย เครื่องมือที่ใช้ในการวัดและส่งสัญญาณระดับนี้เรียกว่า Level Transmitter และมีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ การเลือกประเภทที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คุณสมบัติทางกายภาพของของไหล (ความหนาแน่น ความหนืด การนำไฟฟ้า ฯลฯ) สภาวะแวดล้อมในการใช้งาน (อุณหภูมิ ความดัน) และความแม่นยำที่ต้องการ บทความนี้จะเจาะลึกถึงประเภทต่างๆ ของ Level Transmitter เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด

1. Level Transmitter แบบวัดความดันไฮโดรสแตติก (Hydrostatic Pressure Level Transmitter): เป็นแบบที่ได้รับความนิยมและใช้งานง่าย หลักการทำงานคือการวัดความดันที่ก้นภาชนะ ความดันนี้จะแปรผันตรงกับระดับของของไหล จึงสามารถคำนวณหาระดับของของไหลได้ เหมาะสำหรับของเหลวที่มีความหนาแน่นคงที่ ข้อดีคือติดตั้งง่าย บำรุงรักษาต่ำ และราคาไม่แพง อย่างไรก็ตาม ไม่เหมาะสำหรับของเหลวที่มีความหนาแน่นเปลี่ยนแปลงได้ง่าย หรือมีของแข็งแขวนลอยอยู่จำนวนมาก

2. Level Transmitter แบบความจุ (Capacitance Level Transmitter): อาศัยหลักการวัดความจุไฟฟ้าระหว่างโพรบ (Probe) และผนังภาชนะ เมื่อระดับของของไหลเปลี่ยนแปลง ความจุไฟฟ้าก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย สามารถใช้ได้กับทั้งของเหลวและของแข็ง ข้อดีคือไม่สัมผัสกับของไหลโดยตรง จึงเหมาะสำหรับของไหลที่มีความกัดกร่อนสูง หรือของไหลที่มีอุณหภูมิสูง อย่างไรก็ตาม ความแม่นยำอาจลดลงหากมีการเปลี่ยนแปลงของค่าไดอิเล็กตริกของของไหล

3. Level Transmitter แบบนำไฟฟ้า (Conductivity Level Transmitter): ใช้หลักการวัดการนำไฟฟ้าของของไหล โพรบสองขั้วจะจุ่มลงในของไหล เมื่อระดับของไหลสูงขึ้น กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านโพรบก็จะเพิ่มขึ้น เหมาะสำหรับของเหลวที่มีการนำไฟฟ้าสูง เช่น น้ำ สารละลายเกลือ แต่ไม่เหมาะสำหรับของเหลวที่มีการนำไฟฟ้าต่ำ เช่น น้ำมัน หรือของเหลวที่เป็นฉนวน

4. Level Transmitter แบบเรดาร์ (Radar Level Transmitter): ใช้คลื่นไมโครเวฟในการวัดระดับของไหล คลื่นไมโครเวฟจะสะท้อนกลับจากผิวของของไหล และเวลาที่คลื่นใช้ในการเดินทางไปกลับจะถูกนำมาคำนวณหาระดับของไหล ข้อดีคือไม่สัมผัสกับของไหล มีความแม่นยำสูง และสามารถใช้งานได้กับของไหลทุกชนิด แม้แต่ของเหลวที่มีความหนืดสูงหรือมีฟอง แต่ราคาค่อนข้างสูง

5. Level Transmitter แบบอัลตราโซนิก (Ultrasonic Level Transmitter): ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการวัดระดับของไหล คลื่นเสียงจะถูกส่งไปยังผิวของของไหล และเวลาที่คลื่นใช้ในการเดินทางไปกลับจะถูกนำมาคำนวณหาระดับของไหล ข้อดีคือติดตั้งง่าย บำรุงรักษาต่ำ และราคาไม่แพง แต่ความแม่นยำอาจลดลงหากมีการรบกวนจากสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่นละออง หรือไอน้ำ

สรุป:

การเลือก Level Transmitter ที่เหมาะสมต้องอาศัยการพิจารณาหลายปัจจัย ดังนั้น ควรวิเคราะห์คุณสมบัติของของไหล สภาวะแวดล้อมในการใช้งาน งบประมาณ และความแม่นยำที่ต้องการ ก่อนตัดสินใจเลือกใช้ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการวัดและควบคุมจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเลือก Level Transmitter ที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของคุณ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Level Transmitter และสามารถเลือกใช้ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ