One Drive เต็มต้องทำอย่างไร
OneDrive เต็ม? ลองเคล็ดลับง่ายๆ: เริ่มจากลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกจาก OneDrive และถังรีไซเคิลเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่าง หากยังไม่พอ ลองพิจารณาบีบอัดไฟล์ขนาดใหญ่ หรือย้ายไฟล์เก่าเก็บไว้ในฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกเพื่อจัดการพื้นที่จัดเก็บอย่างมีประสิทธิภาพ
OneDrive เต็ม? กู้คืนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของคุณด้วยวิธีง่ายๆ ที่คุณอาจยังไม่รู้!
OneDrive คือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ที่สะดวกสบาย ช่วยให้เราเข้าถึงไฟล์สำคัญได้จากทุกที่ แต่เมื่อใช้งานไปนานๆ ปัญหา “OneDrive เต็ม” ก็อาจเกิดขึ้น ทำให้คุณไม่สามารถบันทึกไฟล์ใหม่ๆ ได้อีกต่อไป อย่าเพิ่งกังวล! นอกเหนือจากเคล็ดลับพื้นฐานอย่างการลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นแล้ว ยังมีเทคนิคอื่นๆ ที่คุณอาจยังไม่เคยลอง เพื่อช่วยกู้คืนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอันมีค่าของคุณกลับคืนมา
1. ตรวจสอบและจัดการไฟล์ที่ซิงค์:
บ่อยครั้งที่เราซิงค์โฟลเดอร์จำนวนมากจากคอมพิวเตอร์ไปยัง OneDrive โดยไม่ได้ตระหนักว่าไฟล์บางไฟล์ไม่จำเป็นต้องอยู่บนคลาวด์เสมอไป ลองสำรวจโฟลเดอร์ที่ซิงค์อยู่ และยกเลิกการซิงค์โฟลเดอร์ที่มีข้อมูลขนาดใหญ่ที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือโฟลเดอร์ที่มีสำเนาไฟล์ซ้ำซ้อน
- วิธีตรวจสอบ: ใน Windows, คลิกขวาที่ไอคอน OneDrive ใน System Tray (บริเวณมุมขวาล่างของหน้าจอ) เลือก Settings > Account > Choose folders แล้วตรวจสอบรายการโฟลเดอร์ที่กำลังซิงค์อยู่
2. ใช้ประโยชน์จาก “Files On-Demand” (เฉพาะ Windows 10/11):
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณเห็นไฟล์ทั้งหมดที่อยู่ใน OneDrive ใน File Explorer โดยไม่ต้องดาวน์โหลดไฟล์เหล่านั้นลงในเครื่องจนกว่าคุณจะเปิดใช้งานจริง ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ฮาร์ดไดรฟ์และลดการใช้พื้นที่ OneDrive ได้อย่างมาก
- วิธีเปิดใช้งาน: ใน Windows, คลิกขวาที่ไอคอน OneDrive ใน System Tray เลือก Settings > Settings และทำเครื่องหมายที่ “Save space and download files as you use them.”
3. บีบอัดไฟล์ให้เล็กลงอย่างชาญฉลาด:
แทนที่จะบีบอัดไฟล์ทั้งหมดแบบหยาบๆ ลองพิจารณาเลือกบีบอัดเฉพาะไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มากๆ เช่น ไฟล์วิดีโอ หรือไฟล์รูปภาพที่มีความละเอียดสูง หากคุณไม่จำเป็นต้องใช้ไฟล์เหล่านั้นในความละเอียดสูงสุด การบีบอัดจะช่วยลดขนาดไฟล์ได้อย่างมาก
- ไฟล์รูปภาพ: ลองใช้โปรแกรมปรับขนาดรูปภาพออนไลน์ หรือโปรแกรมแต่งภาพเพื่อลดขนาดรูปภาพก่อนที่จะอัพโหลดขึ้น OneDrive
- ไฟล์วิดีโอ: ใช้โปรแกรมบีบอัดวิดีโอเพื่อลดขนาดไฟล์โดยไม่สูญเสียคุณภาพมากเกินไป
4. จัดการเวอร์ชันไฟล์เก่า:
OneDrive เก็บประวัติการแก้ไขไฟล์ ทำให้ไฟล์มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หากคุณไม่จำเป็นต้องย้อนกลับไปยังเวอร์ชันเก่าๆ ของไฟล์เหล่านั้น คุณสามารถลบเวอร์ชันเก่าๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างได้
- วิธีลบเวอร์ชันเก่า: เข้าสู่ OneDrive ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ คลิกขวาที่ไฟล์ที่ต้องการ เลือก “Version history” แล้วลบเวอร์ชันที่ไม่ต้องการ
5. พิจารณาการอัพเกรดพื้นที่จัดเก็บข้อมูล:
หากคุณได้ลองทุกวิธีแล้ว และยังประสบปัญหาพื้นที่เต็มอยู่ การอัพเกรดแผน OneDrive อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้ OneDrive อย่างสม่ำเสมอ และต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับไฟล์สำคัญต่างๆ
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
- ตรวจสอบโฟลเดอร์ “Shared with me”: บางครั้งอาจมีไฟล์จำนวนมากถูกแชร์มาให้คุณ ซึ่งอาจกินพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของคุณโดยไม่รู้ตัว ลองตรวจสอบโฟลเดอร์นี้และนำไฟล์ที่ไม่จำเป็นออก
- ลบไฟล์ขยะและไฟล์ชั่วคราว: ไฟล์ขยะและไฟล์ชั่วคราวต่างๆ ที่สะสมอยู่ในคอมพิวเตอร์ อาจถูกซิงค์ขึ้น OneDrive โดยไม่จำเป็น ควรล้างไฟล์เหล่านี้เป็นประจำ
การจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล OneDrive อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณประหยัดพื้นที่ แต่ยังช่วยให้คุณจัดระเบียบไฟล์ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อให้ OneDrive ของคุณพร้อมใช้งานอยู่เสมอ!
#Onedrive เต็ม#พื้นที่เก็บ#แก้ไขพื้นที่ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต