Shock Wave ควรทำกี่ครั้ง

คลื่นกระแทก (Shock Wave): กี่ครั้งถึงจะเห็นผล? คำตอบที่ไม่ใช่แค่ตัวเลข

การรักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shock wave therapy) กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาอาการปวดเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบ ปลอกหุ้มเส้นเอ็นอักเสบ หรืออาการปวดส้นเท้า แต่คำถามที่หลายคนสงสัยก็คือ “ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?” คำตอบนั้นไม่ใช่แค่ตัวเลขง่ายๆอย่าง “3 ครั้ง” หรือ “5 ครั้ง” แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่ซับซ้อนกว่านั้น

การรักษาด้วยคลื่นกระแทกไม่ได้เป็น “ยาครอบจักรวาล” ที่ใช้ได้ผลเท่ากันกับทุกคน จำนวนครั้งที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับ:

• ความรุนแรงของอาการ: อาการปวดเล็กน้อยอาจต้องการเพียง 2-3 ครั้ง แต่ถ้าเป็นอาการรุนแรงเรื้อรังอาจต้องมากกว่านั้น อาจถึง 5 ครั้ง หรือมากกว่า แพทย์จะประเมินความรุนแรงและให้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุด

• ตำแหน่งและชนิดของอาการบาดเจ็บ: การบาดเจ็บที่กล้ามเนื้ออาจต้องการจำนวนครั้งที่แตกต่างจากการบาดเจ็บที่ข้อต่อ ตำแหน่งที่บาดเจ็บลึกอาจต้องใช้พลังงานคลื่นกระแทกที่มากกว่าและจำนวนครั้งที่มากขึ้น

• ประเภทของคลื่นกระแทก: มีเทคนิคคลื่นกระแทกหลายประเภท เช่น คลื่นกระแทกแบบ Radial shock wave และ Focused shock wave แต่ละแบบมีกลไกการทำงานและความลึกของการแทรกซึมที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อจำนวนครั้งที่ใช้รักษา

• การตอบสนองของร่างกาย: บางรายอาจตอบสนองต่อการรักษาได้ดีกว่า บางรายอาจตอบสนองช้ากว่า แพทย์จะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด และปรับเปลี่ยนแผนการรักษาตามความเหมาะสม อาจมีการเพิ่มหรือลดจำนวนครั้งการรักษา หรือปรับเปลี่ยนพลังงานคลื่นกระแทก ระหว่างการรักษา

• การดูแลหลังการรักษา: นอกจากจำนวนครั้งแล้ว การปฏิบัติตัวหลังการรักษา เช่น การพักผ่อน การบริหารกายภาพบำบัด หรือการรับประทานยา ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผลลัพธ์ การไม่ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำอาจทำให้การรักษาไม่ประสบความสำเร็จ แม้จะทำครบจำนวนครั้งที่กำหนดก็ตาม

ช่วงเว้นระยะการรักษา:

โดยทั่วไป แพทย์จะเว้นระยะการรักษาด้วยคลื่นกระแทกประมาณ 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง เพื่อให้ร่างกายมีเวลาซ่อมแซมและฟื้นฟู การรักษาที่ห่างกันเกินไปอาจทำให้เห็นผลช้า แต่การทำบ่อยเกินไปก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น อาการปวดเพิ่มขึ้นหรือเกิดรอยช้ำ

สรุป:

จำนวนครั้งที่เหมาะสมสำหรับการรักษาด้วยคลื่นกระแทกนั้นไม่มีสูตรสำเร็จ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งจำเป็น แพทย์จะประเมินอาการ ตรวจสอบประวัติการรักษา และพิจารณาปัจจัยต่างๆ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล อย่าพึ่งพาข้อมูลทั่วไปจากอินเทอร์เน็ต แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้การรักษาด้วยคลื่นกระแทกให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุด