Uninstall Program Mac ยังไง

2 การดู

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำใหม่:

กำลังมองหาวิธีเปิดแอปพลิเคชันบน Mac อย่างรวดเร็วใช่ไหม? ลองใช้ Spotlight! เพียงกด Command + Spacebar แล้วพิมพ์ชื่อแอปที่คุณต้องการ จากนั้นกด Enter แอปก็จะเปิดขึ้นมาทันที เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการเข้าถึงแอปพลิเคชันที่คุณต้องการใช้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ถอนโปรแกรมบน Mac: หลากวิธี สะอาดหมดจด ไม่ทิ้งขยะ

การจัดการแอปพลิเคชันบน Mac นั้นง่ายกว่าที่คิด แต่การถอนโปรแกรมให้หมดจด ไม่ทิ้งไฟล์ขยะไว้เบื้องหลัง อาจต้องอาศัยเทคนิคที่มากกว่าแค่ลากไอคอนไปทิ้งในถังขยะ บทความนี้จะนำเสนอหลากหลายวิธีในการถอนโปรแกรมบน Mac อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเคล็ดลับเพิ่มเติมที่คุณอาจไม่เคยรู้

1. วิธีเบสิก: ลากไปทิ้งในถังขยะ (Trash)

วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันที่ติดตั้งแบบง่ายๆ เพียงลากไอคอนแอปจากโฟลเดอร์ Applications ไปยังถังขยะ (Trash) บน Dock จากนั้นคลิกขวาที่ไอคอนถังขยะแล้วเลือก “Empty Trash” เพื่อลบแอปพลิเคชันอย่างถาวร

ข้อควรระวัง: วิธีนี้อาจไม่ลบไฟล์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น ไฟล์ Preference, Cache หรือ Support Files ที่ถูกสร้างขึ้นโดยแอปพลิเคชัน

2. ใช้ Launchpad:

สำหรับแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดมาจาก App Store คุณสามารถถอนการติดตั้งผ่าน Launchpad ได้โดย:

  • เปิด Launchpad (โดยปกติจะอยู่ที่ Dock หรือกด F4)
  • มองหาไอคอนของแอปพลิเคชันที่คุณต้องการถอนการติดตั้ง
  • คลิกค้างไว้ที่ไอคอนจนกว่าไอคอนจะสั่นและปรากฏเครื่องหมาย X
  • คลิกที่เครื่องหมาย X เพื่อถอนการติดตั้งแอปพลิเคชัน

ข้อดี: วิธีนี้ง่ายและสะดวกสำหรับแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดจาก App Store

3. ใช้ตัวถอนการติดตั้ง (Uninstaller) ที่มาพร้อมกับแอปพลิเคชัน:

แอปพลิเคชันบางตัว โดยเฉพาะโปรแกรมขนาดใหญ่ มักจะมาพร้อมกับตัวถอนการติดตั้ง (Uninstaller) ซึ่งจะช่วยให้คุณถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันได้อย่างสะอาดหมดจด โดยปกติแล้วตัวถอนการติดตั้งจะอยู่ในโฟลเดอร์ของแอปพลิเคชันเอง

  • เปิดโฟลเดอร์ Applications
  • มองหาโฟลเดอร์ของแอปพลิเคชันที่คุณต้องการถอนการติดตั้ง
  • ภายในโฟลเดอร์นั้น มองหาไฟล์ที่มีชื่อคล้าย “Uninstall [ชื่อแอปพลิเคชัน]” หรือ “[ชื่อแอปพลิเคชัน] Uninstaller”
  • ดับเบิลคลิกที่ไฟล์นั้นเพื่อเริ่มกระบวนการถอนการติดตั้ง

4. ใช้โปรแกรมช่วยถอนการติดตั้ง (Uninstaller Software):

หากวิธีข้างต้นยังไม่สามารถลบไฟล์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ คุณสามารถใช้โปรแกรมช่วยถอนการติดตั้ง (Uninstaller Software) ที่มีให้เลือกมากมายในตลาด โปรแกรมเหล่านี้จะช่วยสแกนหาไฟล์ที่เหลืออยู่และลบทิ้งอย่างหมดจด ตัวอย่างโปรแกรมที่ได้รับความนิยม:

  • AppCleaner (ฟรี)
  • CleanMyMac X (เสียเงิน)
  • AppZapper (เสียเงิน)

5. การค้นหาและลบไฟล์ที่เหลือด้วยตัวเอง:

หากคุณต้องการความมั่นใจว่าไม่มีไฟล์ใดๆ หลงเหลืออยู่ คุณสามารถค้นหาและลบไฟล์ที่เกี่ยวข้องด้วยตัวเองได้ โดย:

  • เปิด Finder แล้วกด Command + Shift + G (Go to Folder)
  • พิมพ์โฟลเดอร์ต่อไปนี้ (ทีละโฟลเดอร์) แล้วกด Enter:
    • /Applications
    • ~/Library/Application Support/
    • ~/Library/Preferences/
    • ~/Library/Caches/
    • ~/Library/Logs/
    • /Library/LaunchAgents/
    • /Library/LaunchDaemons/
    • ~/Library/LaunchAgents/
    • ~/Library/LaunchDaemons/
  • ค้นหาไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชันที่คุณต้องการถอนการติดตั้ง
  • ลากไฟล์หรือโฟลเดอร์เหล่านั้นไปทิ้งในถังขยะ

ข้อควรระวัง: การลบไฟล์ผิดพลาดอาจทำให้ระบบปฏิบัติการทำงานผิดปกติได้ โปรดระมัดระวังและตรวจสอบให้แน่ใจก่อนทำการลบ

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • Restart Mac: หลังจากถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันแล้ว ควร Restart Mac เพื่อให้ระบบล้างไฟล์ Cache และรีเซ็ตค่าต่างๆ
  • สำรองข้อมูล: ก่อนทำการถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ควรสำรองข้อมูลสำคัญไว้ก่อนเสมอ
  • ระวังโปรแกรมที่แถมมา: ในขณะที่ติดตั้งโปรแกรมใหม่ๆ ให้ระวังโปรแกรมที่แถมมา (Bundled Software) และยกเลิกการติดตั้งโปรแกรมที่ไม่ต้องการ

สรุป:

การถอนโปรแกรมบน Mac นั้นมีหลายวิธีให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของแอปพลิเคชันและความต้องการของคุณ หากคุณต้องการความสะอาดหมดจด ควรใช้ตัวถอนการติดตั้งที่มาพร้อมกับแอปพลิเคชัน หรือโปรแกรมช่วยถอนการติดตั้ง แต่หากคุณต้องการความละเอียดและต้องการควบคุมทุกขั้นตอน การค้นหาและลบไฟล์ที่เหลือด้วยตัวเองก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณจัดการแอปพลิเคชันบน Mac ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ข้อมูลแนะนำ (เพิ่มเติม):

กำลังมองหาวิธีเปิดแอปพลิเคชันบน Mac อย่างรวดเร็วใช่ไหม? ลองใช้ Spotlight! เพียงกด Command + Spacebar แล้วพิมพ์ชื่อแอปที่คุณต้องการ จากนั้นกด Enter แอปก็จะเปิดขึ้นมาทันที เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการเข้าถึงแอปพลิเคชันที่คุณต้องการใช้ และถ้าคุณต้องการเปิดไฟล์ที่อยู่ในโฟลเดอร์ใดโฟลเดอร์หนึ่ง ลองพิมพ์ชื่อโฟลเดอร์นั้นลงใน Spotlight แล้วกด Enter, Spotlight จะเปิดโฟลเดอร์นั้นให้คุณทันที สะดวกและรวดเร็วมากๆ!