Vlookup ใช้ยังไง Google sheet
VLOOKUP ช่วยค้นหาข้อมูลเฉพาะเจาะจงในตารางที่มีหลายคอลัมน์และหลายแถว โดยจะดูข้อมูลในคอลัมน์แรก และส่งคืนข้อมูลจากคอลัมน์อื่นในแถวเดียวกัน
ตัวอย่างการใช้งาน: คำสั่ง: =VLOOKUP(A2, ช่วงข้อมูล!A1:C20, 3, FALSE)
ความหมาย: ค้นหาข้อมูลในเซลล์ A2 ในคอลัมน์แรกของช่วงข้อมูล ช่วงข้อมูล!A1:C20 และส่งคืนข้อมูลจากคอลัมน์ที่ 3 ในแถวเดียวกัน
VLOOKUP ใน Google Sheets: คู่มือฉบับใช้งานจริง พร้อมเคล็ดลับที่คุณอาจไม่เคยรู้
VLOOKUP คือหนึ่งในฟังก์ชันทรงพลังที่สุดใน Google Sheets ที่ช่วยให้คุณค้นหาข้อมูลเฉพาะเจาะจงในตารางขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวที่คอยสืบค้นข้อมูลที่คุณต้องการให้ในพริบตา บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกการใช้งาน VLOOKUP ใน Google Sheets ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเคล็ดลับขั้นสูงที่คุณอาจไม่เคยรู้ เพื่อให้คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
VLOOKUP คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?
VLOOKUP ย่อมาจาก “Vertical Lookup” ซึ่งหมายถึงการค้นหาข้อมูลในแนวตั้ง ฟังก์ชันนี้จะค้นหาค่าที่คุณระบุในคอลัมน์แรกของตารางข้อมูล แล้วส่งคืนค่าจากคอลัมน์ที่คุณต้องการในแถวเดียวกัน
ทำไม VLOOKUP ถึงสำคัญ? เพราะช่วยให้คุณ:
- ประหยัดเวลา: ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาข้อมูลด้วยตนเองในตารางข้อมูลขนาดใหญ่
- เพิ่มความแม่นยำ: ลดโอกาสผิดพลาดจากการค้นหาข้อมูลด้วยสายตา
- เชื่อมโยงข้อมูล: นำข้อมูลจากหลายตารางมาเชื่อมโยงกันได้อย่างง่ายดาย
- สร้างรายงานอัตโนมัติ: สร้างรายงานที่ดึงข้อมูลล่าสุดมาแสดงโดยอัตโนมัติ
ส่วนประกอบของสูตร VLOOKUP:
สูตร VLOOKUP มี 4 ส่วนประกอบหลัก ดังนี้:
-
lookup_value
(ค่าที่ต้องการค้นหา): ค่าที่คุณต้องการค้นหาในคอลัมน์แรกของตารางข้อมูล อาจเป็นตัวเลข, ข้อความ, หรือค่าจากเซลล์อื่น -
range
(ช่วงข้อมูล): ช่วงของเซลล์ที่ VLOOKUP จะค้นหาข้อมูล โดยคอลัมน์แรกของช่วงข้อมูลนี้จะต้องเป็นคอลัมน์ที่ใช้ค้นหาค่าlookup_value
-
index
(หมายเลขคอลัมน์): หมายเลขของคอลัมน์ในrange
ที่คุณต้องการให้ VLOOKUP ส่งคืนค่า -
is_sorted
(ค่าประมาณ): กำหนดวิธีการค้นหาค่าlookup_value
FALSE
(หรือ 0): ค้นหาค่าที่ตรงกันเป๊ะๆ (Exact Match) หากไม่พบค่าที่ตรงกัน จะส่งคืนข้อผิดพลาด #N/ATRUE
(หรือ 1 หรือ ละเว้น): ค้นหาค่าที่ใกล้เคียงที่สุด (Approximate Match) คอลัมน์แรกของrange
จะต้องเรียงลำดับจากน้อยไปมาก หากไม่เรียงลำดับ อาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง
ตัวอย่างการใช้งาน VLOOKUP ใน Google Sheets:
สมมติว่าคุณมีตารางข้อมูลสินค้าดังนี้:
รหัสสินค้า | ชื่อสินค้า | ราคา |
---|---|---|
P001 | เสื้อยืด | 250 |
P002 | กางเกงยีนส์ | 800 |
P003 | รองเท้าผ้าใบ | 1200 |
คุณต้องการค้นหาราคาของสินค้าที่มีรหัส “P002” โดยใช้ VLOOKUP สามารถทำได้ดังนี้:
-
สร้างชีตใหม่ใน Google Sheets แล้วใส่ข้อมูลตามตารางด้านบน
-
ในเซลล์ที่คุณต้องการแสดงผลลัพธ์ ให้พิมพ์สูตรดังนี้:
=VLOOKUP("P002",A1:C3,3,FALSE)
"P002"
คือlookup_value
(ค่าที่ต้องการค้นหา)A1:C3
คือrange
(ช่วงข้อมูล)3
คือindex
(หมายเลขคอลัมน์ของ “ราคา” ซึ่งเป็นคอลัมน์ที่ 3)FALSE
คือis_sorted
(ต้องการค้นหาค่าที่ตรงกันเป๊ะๆ)
-
กด Enter ผลลัพธ์ที่ได้คือ “800” ซึ่งเป็นราคาของกางเกงยีนส์
เคล็ดลับและเทคนิคการใช้งาน VLOOKUP:
- การใช้ Reference Cell: แทนที่จะพิมพ์ค่า
lookup_value
ลงในสูตรโดยตรง ให้ใช้ Reference Cell เพื่ออ้างอิงไปยังเซลล์ที่มีค่าlookup_value
วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนค่าlookup_value
ได้ง่ายโดยไม่ต้องแก้ไขสูตร ตัวอย่าง:=VLOOKUP(A2,A1:C3,3,FALSE)
โดยที่ A2 คือเซลล์ที่มีรหัสสินค้าที่ต้องการค้นหา - การใช้ ArrayFormula: หากคุณต้องการใช้ VLOOKUP กับหลายแถวพร้อมกัน ให้ใช้ ArrayFormula เพื่อประมวลผลสูตรกับช่วงของเซลล์ ตัวอย่าง:
=ARRAYFORMULA(IF(A2:A10="", "", VLOOKUP(A2:A10, A1:C3, 3, FALSE)))
สูตรนี้จะทำการค้นหาราคาของสินค้าในรหัสสินค้าที่อยู่ในช่วง A2:A10 และแสดงผลลัพธ์ในคอลัมน์เดียวกัน - การจัดการกับข้อผิดพลาด #N/A: หาก VLOOKUP ไม่พบค่าที่ต้องการ จะส่งคืนข้อผิดพลาด #N/A คุณสามารถใช้ฟังก์ชัน
IFERROR
เพื่อจัดการกับข้อผิดพลาดนี้และแสดงค่าอื่นแทน ตัวอย่าง:=IFERROR(VLOOKUP(A2,A1:C3,3,FALSE), "ไม่พบข้อมูล")
หากไม่พบข้อมูล จะแสดงข้อความ “ไม่พบข้อมูล” แทนที่จะแสดง #N/A - ระวังการล็อกเซลล์: เมื่อใช้ VLOOKUP กับหลายแถว อย่าลืมล็อกช่วงข้อมูล (range) ด้วยเครื่องหมาย
$
เพื่อให้ช่วงข้อมูลไม่เลื่อนเมื่อคัดลอกสูตร ตัวอย่าง:=VLOOKUP(A2, $A$1:$C$3, 3, FALSE)
ข้อควรระวังในการใช้งาน VLOOKUP:
- VLOOKUP ค้นหาข้อมูลเฉพาะในคอลัมน์แรกของช่วงข้อมูลเท่านั้น หากค่าที่คุณต้องการค้นหาไม่ได้อยู่ในคอลัมน์แรก คุณจะต้องปรับโครงสร้างข้อมูลใหม่ หรือใช้ฟังก์ชันอื่น เช่น INDEX/MATCH หรือ XLOOKUP
- ประสิทธิภาพ: การใช้ VLOOKUP กับตารางข้อมูลขนาดใหญ่อาจทำให้ Google Sheets ทำงานช้าลง พิจารณาใช้ฟังก์ชันอื่นที่มีประสิทธิภาพมากกว่า หากคุณต้องประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก
- การเรียงลำดับข้อมูล: หากใช้
is_sorted
เป็นTRUE
ข้อมูลในคอลัมน์แรกของช่วงข้อมูลจะต้องเรียงลำดับจากน้อยไปมาก เพื่อให้ VLOOKUP ทำงานได้อย่างถูกต้อง
สรุป:
VLOOKUP เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการค้นหาและดึงข้อมูลใน Google Sheets การเข้าใจหลักการทำงานและเทคนิคต่างๆ จะช่วยให้คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณใช้งาน VLOOKUP ได้อย่างคล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น
#Googlesheet#Vlookup#สูตรข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต