คนท้องตรวจน้ำตาลยังไงให้ผ่าน

การคัดกรองภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์: เคล็ดลับให้ผ่านการตรวจ

ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในหญิงตั้งครรภ์ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงทั้งสำหรับแม่และลูก การตรวจคัดกรองอย่างถูกต้องจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการเตรียมตัวและผ่านการตรวจคัดกรองภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์

ขั้นตอนการตรวจคัดกรอง

การตรวจคัดกรองส่วนใหญ่จะทำในช่วงสัปดาห์ที่ 24-28 ของการตั้งครรภ์ กระบวนการมีดังนี้:

1. งดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนการตรวจ
2. แพทย์จะเจาะเลือดเพื่อตรวจระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร
3. จากนั้นคุณจะต้องดื่มสารละลายกลูโคส
4. แพทย์จะเจาะเลือดอีกครั้ง 1 ชั่วโมงและ 2 ชั่วโมงหลังจากดื่มสารละลายกลูโคส

เคล็ดลับเพื่อให้ผ่านการตรวจคัดกรอง

• เตรียมตัวอย่างเหมาะสม: งดอาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นน้ำเปล่า) เป็นเวลา 8 ชั่วโมงก่อนการตรวจ
• ตรงต่อเวลานัด: อย่าสายเพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลง
• พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับไม่เพียงพออาจเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด
• บอกแพทย์เกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์: แจ้งแพทย์หากคุณมีประวัติเป็นเบาหวานในครอบครัวหรือเคยตรวจพบระดับน้ำตาลในเลือดสูงในอดีต
• แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้: บางชนิดอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
• ดื่มน้ำเปล่าก่อนดื่มสารละลายกลูโคส: วิธีนี้ช่วยให้คุณไม่รู้สึกคลื่นไส้หรืออาเจียน
• ดื่มสารละลายกลูโคสอย่างรวดเร็ว: การดื่มอย่างช้าๆ จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่งอาจทำให้ผลการตรวจคลาดเคลื่อน
• นั่งหรือเดินเบาๆ: หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหลังจากดื่มสารละลายกลูโคส เพราะอาจลดระดับน้ำตาลในเลือด
• อย่าสูบบุหรี่: นิโคตินสามารถเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด

วิเคราะห์ผลตรวจ

แพทย์จะประเมินผลการตรวจตามเกณฑ์ต่อไปนี้:

• ระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารไม่เกิน 92 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
• ระดับน้ำตาลในเลือด 1 ชั่วโมงหลังดื่มสารละลายกลูโคสไม่เกิน 180 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
• ระดับน้ำตาลในเลือด 2 ชั่วโมงหลังดื่มสารละลายกลูโคสไม่เกิน 153 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร

หากค่าใดๆ สูงกว่าเกณฑ์เหล่านี้ คุณอาจได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หากเป็นเช่นนั้น แพทย์จะให้คำแนะนำด้านโภชนาการและการออกกำลังกายเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน