ตรวจอุจจาระ เก็บค้างคืนได้ไหม

เก็บอุจจาระตรวจค้างคืน: ทำอย่างไรให้ถูกต้อง?

การตรวจอุจจาระเป็นขั้นตอนสำคัญในการวินิจฉัยปัญหาสุขภาพทางเดินอาหาร หลายครั้งที่เราไม่สามารถไปส่งตัวอย่างได้ทันทีหลังการเก็บ จึงจำเป็นต้องเก็บไว้ค้างคืน การเก็บรักษาที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลต่อความแม่นยำของผลตรวจ บทความนี้จะแนะนำวิธีเก็บอุจจาระค้างคืนอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้ผลตรวจที่น่าเชื่อถือ

ความสำคัญของการเก็บรักษาที่ถูกต้อง:

อุจจาระมีองค์ประกอบที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา เช่น แบคทีเรีย ปรสิต และสารเคมีต่างๆ การเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องนานเกินไปอาจทำให้เกิดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียบางชนิดมากเกินไป หรือทำให้แบคทีเรียบางชนิดตายไป ส่งผลให้ผลการตรวจคลาดเคลื่อนและวินิจฉัยโรคผิดพลาดได้

วิธีเก็บอุจจาระค้างคืนอย่างถูกวิธี:

1. เลือกภาชนะที่เหมาะสม: ใช้ภาชนะสะอาด ปากกว้าง มีฝาปิดสนิท ภาชนะที่เหมาะสมที่สุดคือภาชนะปลอดเชื้อที่ได้รับจากโรงพยาบาลหรือห้องปฏิบัติการ หลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะที่เคยบรรจุสารเคมีหรืออาหารมาก่อน

2. เก็บตัวอย่างอย่างระมัดระวัง: เก็บตัวอย่างอุจจาระปริมาณเล็กน้อย ประมาณเท่าหัวแม่มือ โดยใช้ไม้พายหรือช้อนที่สะอาดตักใส่ภาชนะ ควรเลือกส่วนที่มีลักษณะผิดปกติ เช่น มีมูกเลือด ปน หรือส่วนที่เป็นของแข็งและของเหลว

3. บรรจุในถุงพลาสติก: หลังจากปิดฝาภาชนะบรรจุอุจจาระเรียบร้อยแล้ว ให้นำใส่ถุงพลาสติกอีก 2 ชั้น มัดปากถุงให้แน่นเพื่อป้องกันการรั่วซึมและกลิ่น

4. เก็บในตู้เย็น: นำถุงพลาสติกที่บรรจุอุจจาระไปเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา (ที่ไม่ได้แช่แข็งหรือเก็บอาหาร) อุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 2-8 องศาเซลเซียส การเก็บในตู้เย็นจะช่วยชะลอการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและรักษาสภาพของตัวอย่าง

5. นำส่งห้องปฏิบัติการโดยเร็วที่สุด: แม้ว่าจะเก็บในตู้เย็นได้ แต่อุจจาระควรนำส่งห้องปฏิบัติการภายใน 24 ชั่วโมงหลังเก็บ ยิ่งส่งเร็วเท่าไหร่ ผลตรวจก็ยิ่งมีความแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการว่าตัวอย่างถูกเก็บไว้ในตู้เย็น

ข้อควรระวัง:

• ห้ามแช่แข็งตัวอย่างอุจจาระ
• ห้ามเก็บตัวอย่างอุจจาระไว้ในห้องน้ำที่มีความชื้นสูง
• ห้ามผสมสารเคมีหรือสารอื่นๆ ลงในตัวอย่างอุจจาระ
• หากไม่สามารถนำส่งตัวอย่างภายใน 24 ชั่วโมง ควรปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ

การเก็บรักษาอุจจาระอย่างถูกวิธีเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อความถูกต้องของผลการตรวจ การปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าผลตรวจมีความน่าเชื่อถือและช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ