ท้อง5เดือนไม่ควรทำอะไร

3 การดู

ในช่วงไตรมาสที่สอง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีรุนแรง เช่น ยาฆ่าแมลง น้ำยาทำความสะอาด เพราะอาจส่งผลต่อพัฒนาการของทารก และควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้วิธีรักษาทางเลือก เช่น การฝังเข็ม หรือ การนวดแผนไทย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

5 เดือนแล้ว… แม่ท้องควรระวังอะไรบ้าง?

การตั้งครรภ์ 5 เดือน เป็นช่วงที่คุณแม่เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างชัดเจน ท้องเริ่มโตขึ้น และลูกน้อยในครรภ์ก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ความสุขของการเป็นแม่นั้นก็มาพร้อมกับความระมัดระวัง เพราะในช่วงนี้มีหลายสิ่งที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อสุขภาพของทั้งคุณแม่และลูกน้อย

บทความนี้จะเน้นย้ำสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงตั้งครรภ์ 5 เดือน โดยเฉพาะสิ่งที่อาจถูกมองข้ามไป และไม่ได้เน้นซ้ำกับข้อมูลทั่วไปที่หาได้ง่ายบนอินเทอร์เน็ต เรามาเริ่มกันเลยค่ะ

1. สารเคมีที่ซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวัน: ไม่ใช่แค่ยาฆ่าแมลงและน้ำยาทำความสะอาดเท่านั้น แต่รวมถึงสารเคมีในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำหอม เครื่องสำอาง สีทาเล็บ และแม้แต่ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม สารเคมีเหล่านี้บางชนิดอาจซึมผ่านผิวหนังหรือทางระบบทางเดินหายใจ ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของทารกได้ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากระบุว่า “ปราศจากสารเคมีอันตราย” หรือ “อ่อนโยนต่อผิวบอบบาง” และควรสวมถุงมือทุกครั้งเมื่อต้องสัมผัสสารเคมี แม้จะเป็นสารเคมีในครัวเรือนที่ดูไม่รุนแรงก็ตาม

2. การยกของหนัก: ในช่วงนี้ น้ำหนักตัวของคุณแม่เพิ่มขึ้น รวมถึงน้ำหนักของทารกในครรภ์ การยกของหนักอาจทำให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดเอว หรือแม้แต่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางการตั้งครรภ์ได้ ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนัก และขอความช่วยเหลือจากคนอื่นหากจำเป็น

3. การอดนอนเรื้อรัง: ความเหนื่อยล้าเป็นเรื่องปกติในช่วงตั้งครรภ์ แต่การอดนอนเรื้อรังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่ และอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้ ควรจัดการเวลานอนให้เพียงพอ พยายามเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา และสร้างบรรยากาศการนอนหลับที่ผ่อนคลาย

4. ความเครียดสะสม: ความเครียดส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต และอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารกได้ ควรหาเวลาผ่อนคลาย ทำกิจกรรมที่ชอบ เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ การฝึกหายใจลึกๆ หรือการทำโยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ก็ช่วยลดความเครียดได้เช่นกัน

5. อาหารดิบและปรุงสุกไม่ทั่วถึง: การรับประทานอาหารดิบหรือปรุงสุกไม่ทั่วถึง เช่น ซูชิ เนื้อสัตว์ดิบ หรือไข่ดิบ อาจทำให้คุณแม่ติดเชื้อแบคทีเรียหรือปรสิต ซึ่งเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ควรเลือกบริโภคอาหารที่ปรุงสุกอย่างทั่วถึงและสะอาด

6. การเดินทางไกลหรือการเดินทางที่ต้องนั่งนาน: การเดินทางไกลหรือการนั่งนานๆ อาจทำให้เกิดอาการบวม ปวดขา หรือเส้นเลือดขอดได้ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายเป็นระยะ และดื่มน้ำอย่างเพียงพอ หากต้องเดินทางไกล ควรเลือกเดินทางด้วยเครื่องบิน เพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัย

7. การใช้ยาหรือสมุนไพรโดยไม่ปรึกษาแพทย์: นี่เป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นยาแผนปัจจุบันหรือยาสมุนไพร ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้เสมอ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นกับทั้งคุณแม่และทารก รวมถึงการรักษาทางเลือกต่างๆ เช่น การฝังเข็ม หรือ การนวดแผนไทย ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับการรักษา

การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่มีความพิเศษและสำคัญ การใส่ใจดูแลตัวเองและลูกน้อยในครรภ์อย่างถูกวิธีจะช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพที่ดี และลูกน้อยเติบโตแข็งแรง อย่าลืมปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลประจำตัวเสมอหากมีข้อสงสัยหรือกังวลใดๆ เพื่อรับคำแนะนำและการดูแลที่เหมาะสมค่ะ