มารดา Rh Negative มีผลต่อการตั้งครรภ์อย่างไร

2 การดู

Rh negative ในหญิงตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดปัญหาระหว่างตั้งครรภ์ได้ หากทารกมี Rh positive การป้องกันโดยการฉีด Rh immunoglobulin (RhoGAM) สำคัญมากเพื่อป้องกันการสร้างแอนติบอดีที่อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ต่อไป การดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และลูก

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

Rh Negative ในการตั้งครรภ์: ภัยเงียบที่ต้องระวังและวิธีรับมืออย่างเข้าใจ

Rh Negative เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับหมู่เลือด ซึ่งหมายถึงการขาดโปรตีนที่เรียกว่า Rh factor บนพื้นผิวของเม็ดเลือดแดง หากคุณแม่มี Rh Negative และคุณพ่อมี Rh Positive อาจเกิดความไม่เข้ากันของหมู่เลือดระหว่างแม่และลูกในครรภ์ได้ ซึ่งนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ทำไม Rh Negative ถึงเป็นประเด็นสำคัญในการตั้งครรภ์?

ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อทารกในครรภ์มี Rh Positive (สืบทอดมาจากคุณพ่อ) และเลือดของทารกสัมผัสกับเลือดของคุณแม่ที่มี Rh Negative (โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างการคลอด การแท้งบุตร หรือการตรวจครรภ์บางอย่าง) ร่างกายของคุณแม่จะมองว่าเม็ดเลือดแดงที่มี Rh Positive เป็นสิ่งแปลกปลอม และสร้างแอนติบอดีเพื่อต่อต้าน

แอนติบอดีเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์ครั้งแรก แต่จะเป็นภัยคุกคามในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป หากทารกในครรภ์ครั้งถัดไปมี Rh Positive อีก แอนติบอดีที่ถูกสร้างไว้แล้วจะข้ามรกไปยังทารกและทำลายเม็ดเลือดแดงของทารก ทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกในทารกแรกเกิด (Hemolytic Disease of the Newborn – HDN) ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะซีด ดีซ่าน สมองถูกทำลาย หรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

การป้องกันและดูแลรักษาสำหรับคุณแม่ Rh Negative

โชคดีที่ปัจจุบันมีวิธีป้องกันภาวะแทรกซ้อนนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการฉีด Rh Immunoglobulin (RhoGAM) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายของคุณแม่สร้างแอนติบอดีต่อ Rh Positive

  • การฉีด RhoGAM มักจะทำในระยะเวลาต่อไปนี้:
    • ในช่วงสัปดาห์ที่ 28 ของการตั้งครรภ์
    • ภายใน 72 ชั่วโมงหลังคลอดบุตรที่มี Rh Positive
    • หลังจากการแท้งบุตร การขูดมดลูก หรือการตรวจครรภ์บางอย่างที่อาจทำให้เลือดของทารกสัมผัสกับเลือดของคุณแม่

สิ่งที่คุณแม่ Rh Negative ควรรู้และปฏิบัติ:

  • แจ้งให้แพทย์ทราบ: แจ้งประวัติ Rh Negative ของคุณให้แพทย์ที่ดูแลการตั้งครรภ์ทราบตั้งแต่เนิ่นๆ
  • ตรวจหาแอนติบอดี: แพทย์จะทำการตรวจเลือดเพื่อตรวจสอบว่าคุณแม่มีแอนติบอดีต่อ Rh Positive หรือไม่
  • รับการฉีด RhoGAM ตามคำแนะนำของแพทย์: การฉีด RhoGAM เป็นไปตามแนวทางการรักษาที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
  • เฝ้าระวังอาการของทารก: หากทารกมีภาวะเม็ดเลือดแดงแตก แพทย์จะทำการรักษาอย่างทันท่วงที เช่น การถ่ายเลือดให้ทารก

สิ่งสำคัญที่ต้องจำ:

Rh Negative ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย ด้วยการดูแลรักษาที่เหมาะสมและการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด คุณแม่ Rh Negative สามารถมีลูกที่มีสุขภาพแข็งแรงได้ การปรึกษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการรับมือกับความท้าทายนี้

อย่าลังเลที่จะสอบถาม:

หากคุณเป็นคุณแม่ Rh Negative และมีความกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ อย่าลังเลที่จะสอบถามแพทย์ของคุณเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมและคำแนะนำที่เหมาะสมกับคุณ

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์จากผู้เชี่ยวชาญได้