หมอสูตินารี ตรวจอะไรบ้าง

4 การดู

แผนกสูติ-นรีเวชกรรมมอบการตรวจวินิจฉัยโรคสตรีที่ครอบคลุมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ตั้งแต่การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแบบ Thin Prep และการตรวจหาเชื้อ HPV ไปจนถึงการส่องกล้อง colposcope และการตรวจด้วยอัลตราซาวนด์ 4 มิติเพื่อวินิจฉัยความผิดปกติของปากมดลูกและมดลูก

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เบื้องหลังผ้าขาว: หมอสูตินารี ตรวจอะไรบ้าง? มากกว่าแค่การตรวจภายใน

แผนกสูติ-นรีเวชกรรม มิใช่เพียงแค่สถานที่ตรวจภายในสำหรับสตรีเท่านั้น ที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกัน การตรวจคัดกรอง การวินิจฉัย และการรักษาโรคต่างๆ ในระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง การตรวจที่หมอสูตินารีทำนั้นมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับประวัติสุขภาพ อายุ และความกังวลเฉพาะของผู้ป่วย แต่โดยทั่วไปแล้วจะประกอบด้วยขั้นตอนหลักดังต่อไปนี้:

1. การซักประวัติและการตรวจร่างกายทั่วไป: ขั้นตอนแรกที่สำคัญยิ่ง แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับประวัติสุขภาพ ประวัติการมีประจำเดือน ประวัติการตั้งครรภ์ การมีเพศสัมพันธ์ อาการผิดปกติ ประวัติครอบครัว และพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ การตรวจร่างกายทั่วไปจะช่วยประเมินสภาพร่างกายโดยรวม รวมถึงความดันโลหิต ชีพจร และน้ำหนักตัว

2. การตรวจภายใน (Pelvic Exam): เป็นส่วนสำคัญของการตรวจสูตินารี ซึ่งประกอบด้วย:

  • การตรวจช่องคลอด (Vaginal Examination): แพทย์จะใช้เครื่องมือตรวจสอบสภาพของผนังช่องคลอด มดลูก และรังไข่ โดยสังเกตความผิดปกติต่างๆ เช่น การอักเสบ เนื้องอก หรือความผิดปกติอื่นๆ
  • การตรวจปากมดลูก (Cervical Examination): การตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูก เช่น การติดเชื้อ การอักเสบ หรือมะเร็ง ซึ่งอาจรวมถึงการตรวจ Pap smear (การตรวจเซลล์ปากมดลูก) เพื่อค้นหาเซลล์ผิดปกติที่อาจบ่งชี้ถึงมะเร็งปากมดลูก หรือการตรวจ ThinPrep ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจ Pap smear ที่ทันสมัยกว่า ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจหาเซลล์ผิดปกติ
  • การตรวจด้วยมือ (Bimanual Examination): แพทย์จะใช้มือตรวจสอบขนาด ตำแหน่ง และความผิดปกติของมดลูก รังไข่ และอวัยวะภายในอื่นๆ ในอุ้งเชิงกราน

3. การตรวจเพิ่มเติม: ขึ้นอยู่กับอาการ ประวัติ และผลการตรวจเบื้องต้น แพทย์อาจสั่งการตรวจเพิ่มเติม เช่น:

  • การตรวจอัลตราซาวนด์ (Ultrasound): ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงสร้างภาพของอวัยวะภายใน ช่วยตรวจสอบความผิดปกติของมดลูก รังไข่ หรือการตั้งครรภ์ รวมถึงการตรวจอัลตราซาวนด์ 4 มิติ ที่ให้ภาพที่ละเอียดและคมชัดยิ่งขึ้น
  • การส่องกล้อง colposcopy: การตรวจสอบปากมดลูกอย่างละเอียดด้วยกล้องจุลทรรศน์ ใช้เมื่อผลการตรวจ Pap smear หรือการตรวจอื่นๆ พบความผิดปกติ เพื่อประเมินความรุนแรงและวางแผนการรักษา
  • การตรวจหาเชื้อ HPV (Human Papillomavirus): เชื้อไวรัสที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูก การตรวจนี้ช่วยประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง
  • การตรวจเลือดและปัสสาวะ: เพื่อประเมินสุขภาพโดยรวม ตรวจหาการติดเชื้อ หรือความผิดปกติอื่นๆ
  • การตรวจชีวเวช (Biopsy): การเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อเพื่อตรวจสอบภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ใช้เมื่อพบความผิดปกติที่น่าสงสัย

การตรวจสูตินารีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพของสตรี การตรวจสุขภาพเป็นประจำ แม้ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ช่วยป้องกันและตรวจพบโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ทำให้การรักษาได้ผลดีและมีโอกาสหายขาดสูง จึงควรปรึกษาแพทย์สูตินารีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด

หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ กรุณาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของท่าน