หลังนอกมีโอกาสท้องกี่%

3 การดู

การหลั่งภายนอกช่องคลอด แม้จะลดความเสี่ยง แต่ยังคงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ถึง 20% เนื่องจากอาจมีอสุจิปนเปื้อนในน้ำหล่อลื่นที่ออกมาในช่วงแรกของการมีเพศสัมพันธ์ หากต้องการป้องกันการตั้งครรภ์ ควรเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เช่น ยาคุม หรือถุงยางอนามัย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

“หลังนอก” ปลอดภัยจริงหรือ? ไขข้อข้องใจโอกาสตั้งครรภ์และความเสี่ยงที่ควรรู้

หลายคนอาจเคยได้ยิน หรือเคยใช้วิธีการคุมกำเนิดที่เรียกว่า “หลังนอก” หรือการหลั่งภายนอกช่องคลอด ซึ่งเป็นวิธีที่ฝ่ายชายจะดึงอวัยวะเพศออกก่อนที่จะถึงจุดสุดยอดและหลั่งน้ำอสุจิออกมาภายนอกช่องคลอด เพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์ แต่คำถามที่สำคัญคือ วิธีนี้ปลอดภัยจริงหรือไม่ และมีโอกาสตั้งครรภ์มากน้อยแค่ไหน?

ความเชื่อที่ว่า “หลังนอก” ปลอดภัย อาจทำให้หลายคนประมาทและมองข้ามความเสี่ยงที่แฝงอยู่ แม้ว่าการหลั่งภายนอกช่องคลอดจะช่วยลดโอกาสในการที่อสุจิจะเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้โดยตรง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100%

โอกาสตั้งครรภ์จาก “หลังนอก” สูงถึง 20% จริงหรือ?

ตัวเลข 20% ที่กล่าวมานั้น เป็นตัวเลขโดยประมาณที่ได้จากการศึกษาและสถิติ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในคู่รัก 100 คู่ที่ใช้วิธีการคุมกำเนิดแบบ “หลังนอก” เป็นประจำ อาจมีถึง 20 คู่ที่ประสบปัญหาการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ภายใน 1 ปี

อะไรคือปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ “หลังนอก” ไม่ปลอดภัย?

  • น้ำหล่อลื่น: ก่อนที่จะถึงจุดสุดยอด ร่างกายของผู้ชายจะหลั่งน้ำหล่อลื่นออกมา ซึ่งน้ำหล่อลื่นนี้อาจมีอสุจิปนเปื้อนอยู่ แม้จะมีปริมาณน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดการปฏิสนธิได้หากเข้าไปในช่องคลอด
  • การควบคุมตัวเอง: การดึงอวัยวะเพศออกก่อนที่จะถึงจุดสุดยอดนั้น ต้องอาศัยการควบคุมตัวเองอย่างมาก หากขาดสติ หรือไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ทัน ก็อาจหลั่งน้ำอสุจิเข้าไปในช่องคลอดได้
  • ความไม่สม่ำเสมอ: การใช้วิธี “หลังนอก” อาจไม่ได้ผล หากมีเพศสัมพันธ์ซ้ำหลายครั้งในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เพราะอาจมีอสุจิหลงเหลืออยู่ในท่อปัสสาวะ และปนเปื้อนออกมาในน้ำหล่อลื่นของการมีเพศสัมพันธ์ครั้งถัดไป

หากต้องการป้องกันการตั้งครรภ์ ควรทำอย่างไร?

หากคุณต้องการป้องกันการตั้งครรภ์อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า “หลังนอก” ได้แก่:

  • ยาคุมกำเนิด: มีทั้งแบบรายเดือนและแบบฉุกเฉิน ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้
  • ถุงยางอนามัย: ป้องกันทั้งการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • ห่วงอนามัย: อุปกรณ์ที่ใส่เข้าไปในมดลูกเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ต้องใส่โดยแพทย์
  • การฉีดยาคุม: ต้องฉีดเป็นประจำตามกำหนด
  • การฝังยาคุม: เป็นวิธีคุมกำเนิดระยะยาว

สรุป

“หลังนอก” อาจเป็นทางเลือกที่ง่ายและสะดวก แต่ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด หากคุณให้ความสำคัญกับการป้องกันการตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อเลือกวิธีการคุมกำเนิดที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด และอย่าลืมว่าการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไม่ได้หมายถึงแค่การป้องกันการตั้งครรภ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย