เก็บอุจจาระส่งตรวจทำอย่างไร

2 การดู

การเก็บอุจจาระเพื่อตรวจสอบสุขภาพ ควรใช้ภาชนะสะอาด ปราศจากสิ่งปนเปื้อน มีฝาปิด เพื่อป้องกันการปนเปื้อน และควรปัสสาวะทิ้งก่อนเก็บ เพื่อให้ผลการตรวจแม่นยำที่สุด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เก็บอุจจาระส่งตรวจอย่างไร ให้ผลแม่นยำ ไม่ปนเปื้อน

การตรวจอุจจาระเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่แพทย์ใช้ในการวินิจฉัยปัญหาสุขภาพทางเดินอาหาร ตั้งแต่การติดเชื้อแบคทีเรีย พยาธิ ไปจนถึงโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งลำไส้ ดังนั้นการเก็บตัวอย่างอุจจาระที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความแม่นยำของผลการตรวจ บทความนี้จะแนะนำวิธีการเก็บอุจจาระเพื่อส่งตรวจอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือและช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ

เตรียมตัวก่อนเก็บตัวอย่าง:

  • ภาชนะ: เลือกใช้ภาชนะที่สะอาดและแห้ง ควรเป็นภาชนะที่ออกแบบมาเพื่อการเก็บตัวอย่างอุจจาระโดยเฉพาะ ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยา หรืออาจใช้ภาชนะพลาสติกสะอาดที่มีฝาปิดสนิทก็ได้ หลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะที่เคยบรรจุสารเคมีหรือสิ่งปนเปื้อนอื่นๆ
  • ปัสสาวะก่อนเก็บ: ควรปัสสาวะออกให้หมดก่อนการถ่ายอุจจาระ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัสสาวะปนเปื้อนอุจจาระ ซึ่งอาจส่งผลต่อความแม่นยำของผลการตรวจ
  • หลีกเลี่ยงสิ่งปนเปื้อน: ระหว่างการเก็บตัวอย่าง ควรระวังไม่ให้อุจจาระปนเปื้อนกับสิ่งอื่นๆ เช่น น้ำ กระดาษชำระ หรือสารเคมีต่างๆ รวมถึงควรล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการเก็บตัวอย่าง

ขั้นตอนการเก็บตัวอย่าง:

  1. ถ่ายอุจจาระลงในภาชนะที่เตรียมไว้: หากใช้โถสุขภัณฑ์แบบชักโครก อาจรองด้วยแผ่นพลาสติกหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่สะอาดก่อน แล้วจึงถ่ายอุจจาระลงไป จากนั้นจึงใช้ไม้พายหรือช้อนที่สะอาดตักอุจจาระใส่ภาชนะ
  2. ปริมาณที่เหมาะสม: โดยทั่วไปแล้ว ปริมาณอุจจาระที่ต้องการสำหรับการตรวจจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ช้อนชา หรือขนาดเท่ากับเหรียญ 10 บาท อย่างไรก็ตาม ควรสอบถามกับทางห้องปฏิบัติการหรือโรงพยาบาลที่ท่านจะนำตัวอย่างไปตรวจอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าปริมาณที่เก็บเพียงพอ
  3. ปิดฝาภาชนะให้สนิท: หลังจากเก็บตัวอย่างแล้ว ให้ปิดฝาภาชนะให้สนิท เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและการรั่วไหล
  4. ติดฉลากและส่งตรวจทันที: เขียนชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด และวันที่เก็บตัวอย่างลงบนภาชนะ ควรนำตัวอย่างไปส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการหรือโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการตรวจหาเชื้อปรสิต ซึ่งตัวอย่างควรนำส่งภายใน 30 นาที หากไม่สามารถนำส่งได้ทันที ควรเก็บตัวอย่างไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา และไม่ควรเกิน 24 ชั่วโมง

ข้อควรระวังเพิ่มเติม:

  • หากกำลังรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ท้องเสีย หรือยาทาโรคผิวหนัง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เนื่องจากยาเหล่านี้อาจมีผลต่อผลการตรวจ
  • หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ

การเก็บตัวอย่างอุจจาระอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ และนำไปสู่การรักษาที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพต่อไป