แม่หลังคลอดเบ่งอึได้ไหม

3 การดู

แม่หลังคลอดสามารถเบ่งอึได้ แม้จะผ่านการผ่าตัดคลอดก็ตาม ควรเบ่งเบาๆเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นการทำงานของลำไส้ และช่วยให้ระบบขับถ่ายกลับมาเป็นปกติเร็วขึ้น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เรื่องเบ่งอึหลังคลอด…ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นเรื่องสำคัญที่คุณแม่ควรใส่ใจ

การคลอดบุตรเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้หญิงไปตลอดกาล ทั้งความสุข ความเหนื่อยล้า และความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพมากมาย หนึ่งในเรื่องที่คุณแม่หลังคลอดอาจกังวลและไม่กล้าพูดถึงมากนักก็คือเรื่องการขับถ่าย โดยเฉพาะการเบ่งอึหลังคลอด หลายคนอาจมีความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อแผลผ่าตัดหรือมีผลเสียต่อสุขภาพ แต่ความจริงแล้ว การเบ่งอึอย่างถูกวิธีหลังคลอดนั้นมีความสำคัญต่อสุขภาพของคุณแม่ และไม่ใช่เรื่องที่ควรเก็บไว้เป็นความลับ

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าร่างกายของผู้หญิงหลังคลอดนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง กล้ามเนื้ออ่อนล้า และลำไส้ก็อาจทำงานช้าลง ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูกได้ง่าย อาการท้องผูกไม่เพียงแต่ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆได้ เช่น ริดสีดวงทวาร ซึ่งยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดและความยากลำบากในการขับถ่าย

ดังนั้น การเบ่งอึจึงไม่ใช่เรื่องที่ควรหลีกเลี่ยง แต่ควรทำอย่างถูกวิธีและค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกหลังคลอด คุณแม่ควรเบ่งเบาๆ อย่าเบ่งแรงจนเกินไป เพื่อป้องกันการเกิดแผลฉีกขาดหรือการบาดเจ็บที่บริเวณเย็บแผล หากคุณแม่คลอดแบบผ่าตัด ก็อาจรู้สึกไม่สบายตัวในการเบ่ง แต่การเบ่งเบาๆ อย่างสม่ำเสมอ กลับช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายกลับมาทำงานได้เป็นปกติเร็วขึ้น ช่วยลดอาการท้องผูกและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้

นอกจากการเบ่งเบาๆแล้ว คุณแม่ควรดื่มน้ำมากๆ รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดิน เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย หากอาการท้องผูกยังคงเป็นอยู่หรือรุนแรงขึ้น ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม อย่าปล่อยให้อาการท้องผูกเรื้อรัง เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่ได้

สรุปแล้ว การเบ่งอึหลังคลอดเป็นเรื่องปกติและสำคัญ แต่ควรเบ่งเบาๆ และหากมีข้อสงสัยหรือกังวล ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาล อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ เพราะสุขภาพของคุณแม่หลังคลอดมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดูแลลูกน้อย และความสุขของทั้งครอบครัว

หมายเหตุ: บทความนี้ให้ข้อมูลเพื่อเป็นความรู้ทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เสมอ