วีซ่า Non-O กับ Non OA ต่างกันอย่างไร

วีซ่า Non-O กับ Non-OA: ต่างกันอย่างไร

สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการพำนักในประเทศไทย การเลือกประเภทวีซ่าที่เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยวีซ่า Non-O และ Non-OA เป็นสองประเภทวีซ่าที่ใช้สำหรับการพำนักระยะยาว แต่มีวัตถุประสงค์และเงื่อนไขที่แตกต่างกัน

วีซ่า Non-O

วีซ่า Non-O ออกให้สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการพำนักในประเทศไทยระยะสั้น โดยไม่เกิน 1 ปี วีซ่าประเภทนี้เหมาะสำหรับบุคคลในสถานการณ์ต่อไปนี้:

• ผู้ดูแลผู้ติดตามในครอบครัวที่มีวีซ่า OA หรือ OC
• ผู้ทำงานอาสาสมัครที่ไม่รับค่าตอบแทน
• ผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมหรือการศึกษาระยะสั้น

ผู้ถือวีซ่า Non-O สามารถยื่นขอต่ออายุได้หลายครั้ง แต่ไม่เกินระยะเวลาสูงสุด 1 ปี

วีซ่า Non-OA

วีซ่า Non-OA ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการเกษียณอายุในประเทศไทย โดยมีเงื่อนไขทางการเงินที่เข้มงวดกว่าวีซ่า Non-O ผู้สมัครจะต้องพิสูจน์ได้ว่ามีรายได้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพในประเทศไทย และจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดต่อไปนี้:

• มีอายุอย่างน้อย 50 ปี
• มีหลักฐานรายได้ประจำขั้นต่ำ 80,000 บาทต่อเดือน หรือ 800,000 บาทต่อปี
• มีบัญชีธนาคารในประเทศไทยที่แสดงหลักฐานการโอนเงินรายเดือนขั้นต่ำ 80,000 บาทเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน

ผู้ถือวีซ่า Non-OA สามารถพำนักในประเทศไทยได้นานถึง 1 ปี แต่สามารถต่ออายุได้ในระยะเวลา 2 ปีโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีการตรวจสอบรายได้พิเศษ

ข้อแตกต่างหลัก

สรุปได้ว่า ข้อแตกต่างหลักระหว่างวีซ่า Non-O และ Non-OA คือ:

• วัตถุประสงค์: วีซ่า Non-O ใช้สำหรับการพำนักระยะสั้น เช่น การดูแลครอบครัวหรือการทำงานอาสาสมัคร ในขณะที่วีซ่า Non-OA นั้นออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้เกษียณอายุ
• เงื่อนไขทางการเงิน: วีซ่า Non-OA มีเงื่อนไขทางการเงินที่เข้มงวดกว่า โดยผู้สมัครจะต้องพิสูจน์ได้ว่ามีรายได้ประจำที่เพียงพอ
• ระยะเวลาการพำนัก: ผู้ถือวีซ่า Non-O สามารถพำนักได้ไม่เกิน 1 ปี และสามารถต่ออายุได้หลายครั้งแต่ไม่เกินระยะเวลาสูงสุด 1 ปี ส่วนผู้ถือวีซ่า Non-OA สามารถพำนักได้นานถึง 1 ปี และสามารถต่ออายุได้ในระยะเวลา 2 ปีโดยอัตโนมัติ

การเลือกประเภทวีซ่าที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์เฉพาะและคุณสมบัติทางการเงินของผู้สมัคร ชาวต่างชาติควรศึกษาเงื่อนไขและข้อกำหนดของแต่ละประเภทวีซ่าอย่างรอบคอบก่อนยื่นขอ