สื่อนอกบ้านแบ่งเป็นกี่ประเภท

สื่อ Out of Home (OOH): มากกว่าบิลบอร์ด หลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์การสื่อสารยุคใหม่

สื่อ Out of Home (OOH) หรือสื่อนอกบ้าน กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่บิลบอร์ดขนาดใหญ่ริมถนนอีกต่อไป แต่ครอบคลุมรูปแบบการสื่อสารที่หลากหลาย ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน และปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้การแบ่งประเภทสื่อ OOH มีความซับซ้อนและละเอียดอ่อนขึ้น เราสามารถจำแนกสื่อ OOH ได้หลายแบบ โดยอาศัยพื้นที่ เทคโนโลยี และลักษณะการนำเสนอ ดังนี้:

1. สื่อแบบคงที่ (Static OOH): เป็นรูปแบบดั้งเดิมที่เน้นความชัดเจน ความทรงจำ และการสร้างแบรนด์ ตัวอย่างเช่น:

• บิลบอร์ด (Billboard): ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่บนพื้นที่โล่งแจ้ง มักอยู่ริมถนนหรือทางด่วน เหมาะสำหรับสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง
• ป้ายโฆษณาขนาดเล็ก (Smaller Format): ป้ายโฆษณาขนาดต่างๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไปตามสถานที่ต่างๆ เช่น ป้ายรถเมล์ ตู้โทรศัพท์ หรือป้ายประกาศในชุมชน มีความยืดหยุ่นในเรื่องของขนาดและตำแหน่ง
• แบนเนอร์ (Banner): ป้ายผ้าหรือวัสดุอื่นๆ ที่ติดตั้งตามอาคาร สะพาน หรือสถานที่ต่างๆ สามารถออกแบบให้มีความสร้างสรรค์และดึงดูดสายตาได้
• สติ๊กเกอร์ (Decals/Stickers): การติดสติ๊กเกอร์บนพื้นผิวสาธารณะ เช่น พื้นถนน บันไดเลื่อน หรือพื้นที่สาธารณะอื่นๆ ที่สร้างความแปลกใหม่และดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี (ต้องคำนึงถึงกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ)

2. สื่อแบบเคลื่อนไหว (Dynamic OOH): ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สามารถเปลี่ยนแปลงภาพและข้อความได้ เพิ่มความน่าสนใจและสร้างความตื่นตาตื่นใจ ตัวอย่างเช่น:

• ป้ายไฟดิจิทัล (Digital Billboard): ป้ายโฆษณาแบบดิจิทัล แสดงผลแบบเคลื่อนไหว สามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาได้ตามต้องการ และวัดผลได้อย่างแม่นยำ
• จอแสดงผลในสถานที่ (Digital Displays): จอแสดงผลในห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้า สนามบิน หรือสถานที่สาธารณะอื่นๆ มีการใช้งานที่หลากหลาย และสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเจาะจง
• สื่อบนรถโดยสารสาธารณะ (Transit Advertising): การโฆษณาบนรถประจำทาง รถไฟ หรือรถไฟฟ้า เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะ สามารถสร้างความคุ้นเคยและการจดจำแบรนด์ได้

3. สื่อแบบอื่นๆ (Other OOH): เป็นรูปแบบที่ไม่สามารถจัดกลุ่มเข้ากับ 2 ประเภทข้างต้นได้อย่างชัดเจน แต่ก็เป็นส่วนสำคัญของสื่อ OOH เช่น:

• สื่อบนพื้นที่เฉพาะ (Location-Based Advertising): การโฆษณาที่เน้นกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เฉพาะ เช่น การโฆษณาในโรงภาพยนตร์ หรือสถานที่ท่องเที่ยว
• สื่อประสบการณ์ (Experiential Marketing): การสร้างกิจกรรมหรือประสบการณ์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในพื้นที่สาธารณะ

การเลือกประเภทสื่อ OOH ขึ้นอยู่กับงบประมาณ กลุ่มเป้าหมาย และวัตถุประสงค์การสื่อสาร การผสมผสานรูปแบบต่างๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สื่อ OOH จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ธุรกิจสามารถใช้เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่จะพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ตามเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค