กฎหมายแรงงานฉบับใดที่ดูแลเกี่ยวกับความปลอดภัยของแรงงานจากการทำงาน

11 การดู

พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน ครอบคลุมผู้ประกอบการทุกประเภททั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อลดอุบัติเหตุและโรคจากการทำงาน และส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปกป้องแรงงานไทย: เจาะลึก พ.ร.บ. ความปลอดภัยฯ พ.ศ. 2554 เกราะป้องกันภัยในที่ทำงาน

ความปลอดภัยของแรงงานถือเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ไม่มีใครควรต้องเสี่ยงชีวิตหรือสุขภาพเพื่อการทำงาน ประเทศไทยจึงมีกฎหมายเฉพาะเพื่อคุ้มครองแรงงาน นั่นคือ พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 หรือที่นิยมเรียกสั้นๆ ว่า พ.ร.บ. ความปลอดภัยฯ 2554 ซึ่งเป็นกฎหมายหลักที่กำกับดูแลและส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงาน ครอบคลุมทั้งการป้องกันอุบัติเหตุ การควบคุมโรคจากการทำงาน และการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี

กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะอุตสาหกรรมหนักหรือโรงงานขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ครอบคลุมถึง ผู้ประกอบการทุกประเภททั้งภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน ร้านค้า สถานประกอบการขนาดเล็ก หรือแม้แต่การทำงานที่บ้าน หากมีการจ้างงานก็ต้องอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายนี้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของรัฐในการคุ้มครองแรงงานทุกระดับ

พ.ร.บ. ความปลอดภัยฯ 2554 เน้นการป้องกันภัยที่ต้นเหตุ โดยกำหนดให้นายจ้างมีหน้าที่จัดให้มีมาตรการความปลอดภัย เช่น จัดหาอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล จัดฝึกอบรมด้านความปลอดภัย ตรวจสอบและประเมินความเสี่ยง รวมถึงจัดให้มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ถูกสุขลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแสงสว่าง เสียง อากาศ สารเคมี และปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของแรงงาน

นอกจากการกำหนดหน้าที่ของนายจ้างแล้ว กฎหมายยังส่งเสริมให้แรงงานมีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยของตนเองและเพื่อนร่วมงาน เช่น การปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย การแจ้งเหตุอันตราย และการเสนอแนะเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงาน

จุดเด่นสำคัญของ พ.ร.บ. ความปลอดภัยฯ 2554 คือการมุ่งเน้นไปที่ “การป้องกัน” มากกว่า “การแก้ไข” โดยส่งเสริมให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และหน่วยงานภาครัฐ ร่วมมือกันสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในที่ทำงาน เพื่อลดอุบัติเหตุ ลดโรคจากการทำงาน และส่งเสริมให้แรงงานไทยมีสุขภาพที่ดี สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข นำไปสู่การพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนในระยะยาว.