กฎหมาย พ.ร.บ.ความปลอดภัยและอาชีวอนามัยมาตราใด ที่ ลูกจ้างมีหน้าที่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัย
ลูกจ้างทุกคนในสถานประกอบกิจการ มีหน้าที่ปฏิบัติตามหลักความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ตามที่กำหนดในสถานประกอบกิจการนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นของนายจ้างหรือไม่ก็ตาม สิ่งนี้ครอบคลุมถึงอาคารและอุปกรณ์ที่เช่าด้วย
ภาระหน้าที่ของลูกจ้างต่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน: กว่าจะเจอคำตอบใน พ.ร.บ.ความปลอดภัยฯ
บทความนี้จะพยายามคลี่คลายข้อสงสัยเกี่ยวกับภาระหน้าที่ของลูกจ้างด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้นหาข้อกฎหมายที่ระบุไว้อย่างชัดเจนใน พ.ร.บ.ความปลอดภัยฯ ซึ่งเป็นคำถามที่ผู้คนจำนวนมากสงสัย เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ระบุมาตราใดมาตราหนึ่งโดยตรงว่า “ลูกจ้างต้องทำอย่างนี้ อย่างนั้น” แต่กลับบัญญัติหลักการไว้เป็นภาพรวม
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือการมองหา “มาตรา” เดียวที่ระบุหน้าที่ของลูกจ้างอย่างชัดเจน ความจริงแล้ว พ.ร.บ.ความปลอดภัยฯ พ.ศ. 2559 กำหนดความรับผิดชอบของลูกจ้างไว้ในหลายมาตรา โดยเน้นไปที่หลักการร่วมมือ และปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนด แทนที่จะเป็นการระบุรายละเอียดเป็นข้อๆ เช่นเดียวกับที่เนื้อหาที่ท่านให้มา กล่าวคือ ลูกจ้างต้องปฏิบัติตามหลักความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานตามที่สถานประกอบการกำหนด ไม่ว่าจะเป็นของนายจ้างหรือไม่ก็ตาม
หากจะอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เราอาจต้องมองไปที่ เจตนารมณ์ ของกฎหมาย ซึ่งต้องการให้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างร่วมมือกันสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย นั่นหมายความว่า ลูกจ้างมีหน้าที่ปฏิบัติตาม มาตรฐานความปลอดภัย ที่นายจ้างกำหนด และที่สำคัญคือต้อง ร่วมมือ กับนายจ้างในการปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ
ตัวอย่างเช่น มาตรา 22 ที่กล่าวถึงการให้ความร่วมมือของลูกจ้างในการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยที่นายจ้างกำหนด หรือ มาตรา 28 ที่กล่าวถึงการแจ้งเหตุอันตราย สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของลูกจ้างในการสร้างสถานที่ทำงานที่ปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องระบุมาตราใดมาตราหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เป็นการกระจายความรับผิดชอบไปตามบทบาทหน้าที่ต่างๆ
ดังนั้น การค้นหา “มาตรา” เดียวที่ตอบโจทย์นี้จึงไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง แต่เป็นการตระหนักถึง ความรับผิดชอบร่วมกัน ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ภายใต้กรอบของ พ.ร.บ.ความปลอดภัยฯ โดยลูกจ้างต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรการความปลอดภัยที่สถานประกอบการกำหนด ซึ่งครอบคลุมทั้งสิ่งที่นายจ้างจัดเตรียมให้และสภาพแวดล้อมโดยรวม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ในที่สุดแล้ว การตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยในการทำงาน และการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ไม่ใช่แค่การค้นหาข้อกฎหมายเฉพาะเจาะจง แต่เป็นการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในสถานประกอบการอย่างยั่งยืน
#กฎหมายแรงงาน#พ.ร.บ.ความปลอดภัย#อาชีวอนามัยข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต