เมลาโทนิน ทำไมห้ามขาย

เมลาโทนิน: ทำไมยังคงเป็น “พื้นที่สีเทา” ในวงการผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร?

เมลาโทนิน ฮอร์โมนแห่งการหลับใหลที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในฐานะตัวช่วยบรรเทาปัญหาการนอนไม่หลับ แม้จะพบได้ในร่างกายมนุษย์ตามธรรมชาติ แต่การปรากฏตัวของเมลาโทนินในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลับสร้างความคลุมเครือและข้อถกเถียงอย่างต่อเนื่อง เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? คำตอบไม่ได้อยู่ที่ความเป็นพิษของเมลาโทนินโดยตรง แต่ซับซ้อนกว่านั้นมาก

ประเด็นหลักอยู่ที่การ ขาดการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัย ในขณะที่เมลาโทนินเป็นสารประกอบทางธรรมชาติ การผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเมลาโทนินนั้นมักไม่ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวดเท่ากับยา สิ่งนี้ส่งผลให้ปริมาณเมลาโทนินในผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นอาจแตกต่างกันอย่างมาก อาจมีปริมาณมากกว่าหรือต่ำกว่าที่ระบุไว้บนฉลาก และที่สำคัญกว่านั้นคืออาจปนเปื้อนสารอื่นๆที่ไม่ระบุ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้ นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลด้านอาหารและยาหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ยังไม่สามารถอนุมัติให้จำหน่ายเมลาโทนินในฐานะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ การจำหน่ายจึงเป็นไปอย่างไม่เป็นทางการและมักเกิดขึ้นในช่องทางที่ไม่ถูกควบคุม

นอกเหนือจากปัญหาด้านการควบคุมคุณภาพแล้ว การใช้เมลาโทนินในระยะยาวก็ยังเป็นที่กังวล แม้ว่าในปริมาณเล็กน้อยที่ร่างกายสร้างเองจะไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่การรับประทานเมลาโทนินจากภายนอกในปริมาณสูงและต่อเนื่องอาจส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆในร่างกาย เช่น การรบกวนการทำงานของต่อมไร้ท่อ การเกิดอาการข้างเคียง เช่น เวียนศีรษะ ปวดหัว คลื่นไส้ และอาการอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นได้ และยังมีการศึกษาเพิ่มเติมจำเป็นในการประเมินผลกระทบระยะยาวอย่างแท้จริง

ดังนั้น แทนที่จะพึ่งพาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเมลาโทนินที่ไม่มีการควบคุม หากคุณประสบปัญหาการนอนไม่หลับ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แพทย์จะสามารถประเมินสาเหตุของปัญหาการนอนหลับของคุณอย่างถูกต้อง และแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน การใช้ยาที่ได้รับการรับรอง หรือการรักษาอื่นๆ ซึ่งมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากกว่า การเลือกวิธีแก้ปัญหาอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นและหลับสนิทได้อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่ได้รับการควบคุมอย่างเพียงพอ