ชานมไข่มุกมีโทษอย่างไร

ชานมไข่มุก: อร่อยแต่แฝงภัย เสี่ยงโรคร้ายถ้าดื่มไม่ระวัง

ชานมไข่มุก เครื่องดื่มยอดฮิตที่ใครๆ ก็หลงใหล ด้วยรสชาติหวานมัน เคี้ยวหนึบหนับ กลายเป็นเครื่องดื่มดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดี แต่ภายใต้ความอร่อยที่ใครหลายคนติดใจนั้น แฝงไปด้วยอันตรายต่อสุขภาพ หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไปหรือบ่อยครั้งจนเกินควร

ความหวานที่สัมผัสได้จากชานมไข่มุก ส่วนใหญ่มักมาจากน้ำตาลทราย น้ำเชื่อม หรือสารให้ความหวานอื่นๆ ในปริมาณที่สูง การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปเป็นสาเหตุหลักของโรคต่างๆ เริ่มตั้งแต่ โรคอ้วน ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา น้ำตาลส่วนเกินที่ร่างกายไม่สามารถนำไปใช้ได้จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสม ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และเสี่ยงต่อการเป็น โรคเบาหวานประเภทที่ 2 เนื่องจากร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด โรคหัวใจและหลอดเลือด อีกด้วย เพราะน้ำตาลส่วนเกินจะส่งผลให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจ

ไข่มุกที่เคี้ยวหนึบหนับ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรระมัดระวัง แม้ทำมาจากแป้งมันสำปะหลังซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน แต่ไข่มุกมักผ่านกระบวนการผลิตที่เติมน้ำตาลและสารปรุงแต่งรสต่างๆ เข้าไป ทำให้มีปริมาณน้ำตาลและแคลอรี่ที่สูง การรับประทานไข่มุกในปริมาณมากอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารได้ เช่น ท้องอืด ท้องผูก และหากไม่เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน อาจเกิดอันตรายจากการติดคอได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก

เพื่อให้การดื่มชานมไข่มุกเป็นไปอย่างปลอดภัยและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้

• เลือกชนิดที่น้ำตาลน้อย: ปัจจุบันหลายร้านมีตัวเลือกความหวานให้เลือก ควรเลือกแบบหวานน้อย หรือไม่เติมน้ำตาลเลย
• จำกัดปริมาณการดื่ม: ไม่ควรดื่มบ่อยจนเกินไป ควรเป็นเพียงเครื่องดื่มที่ดื่มเพื่อความเพลิดเพลินในบางโอกาส
• แปรงฟันหลังดื่ม: ความหวานจากชานมไข่มุกอาจตกค้างตามซอกฟัน เป็นสาเหตุของฟันผุ ดังนั้นควรแปรงฟันทุกครั้งหลังดื่ม

ถึงแม้ชานมไข่มุกจะเป็นเครื่องดื่มที่อร่อย แต่ก็ควรดื่มอย่างมีสติ เลือกดื่มในปริมาณที่เหมาะสม และใส่ใจสุขภาพของตนเองเป็นสำคัญ เพื่อความอร่อยที่ไม่ทำลายสุขภาพ