ห้ามกินส้มกับยาอะไร

9 การดู

ส้มโอและเกรปฟรุตมีสารที่ขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลต่อการดูดซึมยาบางชนิด เช่น ยาต้านไวรัส ยารักษาโรคซึมเศร้า และยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานผลไม้เหล่านี้ควบคู่กับยาใดๆ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างส้มโอและเกรปฟรุต อาจมีปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์กับยาบางชนิด สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ ผลไม้เหล่านี้มีสารจำพวกฟลาโวนอยด์และฟลาโวนอยด์ในปริมาณสูง ซึ่งสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไซโทโครม P450 (CYP450) ในตับ เอนไซม์ชนิดนี้มีหน้าที่สำคัญในการเผาผลาญยาต่างๆ ในร่างกาย

เมื่อสารในส้มโอและเกรปฟรุตยับยั้งเอนไซม์ CYP450 ยาบางชนิดจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้มากขึ้นหรือช้าลงกว่าปกติ การเปลี่ยนแปลงนี้สามารถนำไปสู่ระดับยาในเลือดที่สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง หรือยารักษาไม่เกิดผล

ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับส้มโอและเกรปฟรุต ได้แก่ ยาต้านไวรัส เช่น ยาที่ใช้รักษาเอดส์ (ยาต้านไวรัสเอชไอวี) ยาบางประเภทสำหรับรักษาโรคหัวใจ เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือดและยาเพื่อลดความดันโลหิต ยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคซึมเศร้า ยาแก้ปวดชนิดบางประเภท และยาบางประเภทที่ใช้รักษาโรคอื่นๆ แม้แต่ยาเสริมอาหารบางประเภทก็อาจมีปฏิกิริยานี้ได้

การรับประทานส้มโอหรือเกรปฟรุตพร้อมกับยาต่างๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงหรือการทำงานของยาผิดปกติ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนที่จะรับประทานผลไม้เหล่านี้ควบคู่กับการใช้ยาใดๆ แพทย์หรือเภสัชกรสามารถประเมินความเสี่ยงและให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพของคุณได้

ควรสังเกตว่า ระดับของปฏิกิริยาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่รับประทาน ปริมาณของผลไม้ที่รับประทาน และสุขภาพของแต่ละบุคคล การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การพูดคุยกับบุคลากรทางการแพทย์อย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาเกี่ยวกับการใช้ยาและการรับประทานอาหาร

คำแนะนำสำคัญ: บทความนี้มีไว้เพื่อให้ความรู้ทั่วไปเท่านั้น และไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากมีข้อสงสัยหรือปัญหาใดๆ เกี่ยวกับการใช้ยาหรือการรับประทานอาหาร โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรของคุณเสมอ