อ้วกแล้วกินอะไรได้บ้าง

8 การดู

หลังอาเจียน ควรเริ่มด้วยของเหลวอ่อนๆ เช่น น้ำเปล่า ชาอุ่นๆ หรือน้ำเกลือแร่ หลีกเลี่ยงของแข็งหรืออาหารรสจัด รอจนกว่าอาการดีขึ้นจึงค่อยๆ เพิ่มชนิดและปริมาณอาหาร

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

หลังอาเจียน…กินอะไรดี? คู่มือฟื้นฟูร่างกายอย่างอ่อนโยน

อาการอาเจียนเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายที่บ่งบอกถึงความไม่ปกติ ไม่ว่าจะเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ อาหารเป็นพิษ หรือแม้แต่การเมาคารถ หลังจากคลื่นไส้อาเจียนสงบลง สิ่งสำคัญคือการฟื้นฟูร่างกายอย่างถูกวิธี การเลือกกินอาหารหลังอาเจียนจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันอาการกำเริบและช่วยให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงดังเดิม

บทความนี้จะไม่เน้นถึงสาเหตุของอาการอาเจียน แต่จะมุ่งเน้นไปที่การแนะนำอาหารที่เหมาะสมสำหรับการบริโภค หลัง จากที่อาการอาเจียนสงบลงแล้ว โปรดจำไว้ว่า หากอาการยังคงเป็นอยู่หรือรุนแรงขึ้น ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรโดยทันที

ระยะเริ่มต้น: เติมน้ำและอิเล็กโทรไลต์

หลังจากอาเจียน ร่างกายของคุณสูญเสียทั้งน้ำและอิเล็กโทรไลต์ ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรทำคือการเติมน้ำและเกลือแร่กลับเข้าสู่ร่างกาย แนะนำให้เริ่มต้นด้วยของเหลวอ่อนๆ ในปริมาณน้อยๆ เช่น:

  • น้ำเปล่า: เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ช่วยชดเชยน้ำที่สูญเสียไป ดื่มทีละน้อยๆ อย่าดื่มมากเกินไปในครั้งเดียว อาจทำให้รู้สึกคลื่นไส้ได้อีก
  • น้ำเกลือแร่ (Oral Rehydration Solution หรือ ORS): มีส่วนผสมของน้ำ เกลือ และน้ำตาล ช่วยชดเชยเกลือแร่ที่สูญเสียไป มีจำหน่ายทั่วไปตามร้านขายยา
  • น้ำซุปใสๆ: เช่น น้ำซุปไก่ น้ำซุปกระดูก ที่ไม่มีเครื่องปรุงรสจัด ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารบางส่วน แต่ควรเลือกแบบที่ไม่มัน และไม่มีส่วนผสมของไขมันมากเกินไป
  • ชาอุ่นๆ (ไม่ใส่น้ำตาลหรือใส่น้อยมาก): ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่ควรเลือกชนิดที่ไม่มีคาเฟอีน เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้

หลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ในระยะแรก:

  • ของแข็ง: ในช่วงเริ่มต้น ควรหลีกเลี่ยงของแข็งทุกชนิด เพราะอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนซ้ำได้
  • อาหารรสจัด: อาหารรสเผ็ด เปรี้ยว หรือเค็มจัด อาจระคายเคืองกระเพาะอาหารและทำให้เกิดอาการอาเจียนได้อีก
  • อาหารมันๆ: อาหารทอด อาหารที่มีไขมันสูง ยากต่อการย่อยและอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวได้
  • เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์: อาจกระตุ้นให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนได้
  • นมและผลิตภัณฑ์จากนม: บางคนอาจแพ้แลคโตส ทำให้เกิดอาการท้องเสียและอาเจียนได้

ระยะต่อมา: ค่อยๆ เพิ่มชนิดและปริมาณอาหาร

เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว สามารถค่อยๆ เพิ่มชนิดและปริมาณอาหารได้ แนะนำให้เริ่มจากอาหารที่ย่อยง่าย เช่น:

  • กล้วย: อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ช่วยชดเชยเกลือแร่ที่สูญเสียไป
  • ข้าวต้ม: เป็นอาหารที่ย่อยง่าย อ่อนโยนต่อกระเพาะอาหาร
  • ขนมปังปิ้ง: ควรเลือกแบบไม่ทาเนยหรือทาเนยบางๆ
  • แอปเปิ้ลซอส: เนื้อเนียน ย่อยง่าย

ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการอื่นๆ เช่น ปวดท้องอย่างรุนแรง มีไข้สูง ควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

การกินอาหารหลังอาเจียนเป็นขั้นตอนสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย การเลือกกินอาหารที่เหมาะสม และค่อยเป็นค่อยไป จะช่วยให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญ อย่าลืมดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ และอย่าลืมปรึกษาแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีข้อสงสัยใดๆ