ข้าราชการสายได้กี่ครั้ง กพ

0 การดู

การพิจารณาเลื่อนเงินเดือนครึ่งปีนี้ ข้าราชการต้องมีการลาป่วยและลากิจรวมไม่เกิน 10 ครั้ง สำหรับการมาสาย หากผลการประเมินเป็น ดีเด่น อนุญาตให้มาสายได้ไม่เกิน 12 ครั้ง แต่หากผลการประเมินต่ำกว่านั้น จำนวนครั้งที่อนุญาตให้มาสายจะลดลงตามลำดับ ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ ก.พ. กำหนดในแต่ละปี

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สายได้กี่ครั้งกับการประเมินผลงาน: ไขข้อข้องใจเรื่องการมาสายของข้าราชการกับการเลื่อนขั้น

ในโลกของการทำงานราชการ การตรงต่อเวลาถือเป็นคุณสมบัติสำคัญที่สะท้อนถึงความรับผิดชอบและความเคารพต่อหน้าที่ แต่ก็เข้าใจได้ว่าในชีวิตจริง อาจมีเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ข้าราชการบางท่านจำเป็นต้องมาทำงานสายบ้าง บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับจำนวนครั้งที่ข้าราชการสามารถมาทำงานสายได้ โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการพิจารณาเลื่อนเงินเดือน รวมถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

จากข้อมูลที่เราได้มา การพิจารณาเลื่อนเงินเดือนครึ่งปีนั้น มีเงื่อนไขสำคัญคือจำนวนวันลาป่วยและลากิจรวมกันต้องไม่เกิน 10 ครั้ง อย่างไรก็ตาม เรื่องของการมาสายนั้นมีความซับซ้อนกว่าเล็กน้อย เพราะไม่ได้มีตัวเลขตายตัวที่ใช้กับข้าราชการทุกคน

หลักการสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ จำนวนครั้งที่อนุญาตให้มาสายนั้น สัมพันธ์โดยตรงกับผลการประเมินผลการปฏิบัติงาน

  • ดีเด่น: หากข้าราชการท่านใดได้รับการประเมินผลการปฏิบัติงานในระดับ “ดีเด่น” จะได้รับ “สิทธิพิเศษ” ในการมาสายได้มากกว่าปกติ โดยอนุญาตให้มาสายได้ไม่เกิน 12 ครั้ง
  • ต่ำกว่าดีเด่น: สำหรับข้าราชการที่ได้รับการประเมินผลการปฏิบัติงานในระดับต่ำกว่า “ดีเด่น” จำนวนครั้งที่อนุญาตให้มาสายจะลดลงตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กำหนดในแต่ละปี

ความสำคัญของเกณฑ์ ก.พ.

ข้อกำหนดเรื่องจำนวนครั้งที่อนุญาตให้มาสาย รวมถึงเกณฑ์การพิจารณาอื่นๆ เกี่ยวกับการเลื่อนเงินเดือนนั้น จะถูกกำหนดโดย ก.พ. ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนได้ในแต่ละปี ดังนั้น ข้าราชการทุกท่านควรติดตามประกาศและแนวทางปฏิบัติของ ก.พ. อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เข้าใจกฎเกณฑ์ล่าสุด และปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:

  • เหตุผลของการมาสาย: แม้ว่าจะมีจำนวนครั้งที่อนุญาตให้มาสายได้ แต่การมาสายโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานได้ ดังนั้น ควรแจ้งเหตุผลที่มาสายให้ผู้บังคับบัญชาทราบทุกครั้ง
  • ผลกระทบต่อการปฏิบัติงาน: แม้ว่าจะมาสายไม่เกินจำนวนครั้งที่กำหนด แต่หากการมาสายนั้นส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงาน ทำให้งานล่าช้า หรือเกิดความเสียหาย อาจถูกพิจารณาในแง่ลบได้
  • วัฒนธรรมองค์กร: แม้ว่าจะมีเกณฑ์ของ ก.พ. กำหนดไว้ แต่บางหน่วยงานอาจมีวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการตรงต่อเวลาเป็นพิเศษ ดังนั้น ควรศึกษาและทำความเข้าใจวัฒนธรรมองค์กรของตนเอง

สรุป:

การมาสายของข้าราชการนั้น มีความเกี่ยวพันกับผลการประเมินผลการปฏิบัติงาน โดยผู้ที่ได้รับการประเมินในระดับ “ดีเด่น” จะได้รับสิทธิพิเศษในการมาสายได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม ข้าราชการทุกท่านควรให้ความสำคัญกับการตรงต่อเวลา และพยายามหลีกเลี่ยงการมาสายโดยไม่จำเป็น เพื่อรักษาภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของตนเอง รวมถึงเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

คำแนะนำ:

  • ติดตามข่าวสารและประกาศจาก ก.พ. อย่างสม่ำเสมอ
  • ทำความเข้าใจเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงาน
  • วางแผนการเดินทางและจัดการเวลาให้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงการมาสาย
  • หากจำเป็นต้องมาสาย ควรแจ้งเหตุผลให้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที
  • รักษาผลการปฏิบัติงานให้ดี เพื่อเพิ่มโอกาสในการเลื่อนขั้นและรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ

หวังว่าบทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องการมาสายของข้าราชการได้ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ควรปรึกษาหน่วยงานบริหารทรัพยากรบุคคลของท่านโดยตรง เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด