ภาษา หมายถึงอะไร แบ่งเป็นกี่ประเภท

2 การดู

ภาษาคือระบบสัญลักษณ์ที่ใช้สื่อสารความหมายระหว่างบุคคล แบ่งได้เป็นสองประเภทหลัก คือ ภาษาพูด (Oral Language) ซึ่งใช้เสียงและคำพูด และภาษากาย (Body Language) ซึ่งใช้ท่าทางและการแสดงออกทางกายภาพ ทั้งสองประเภทนี้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุม การศึกษาภาษาจึงครอบคลุมทั้งสองด้านนี้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ภาษา: มากกว่าคำพูดและท่าทาง

ภาษา มักถูกเข้าใจอย่างง่ายๆ ว่าเป็นเครื่องมือการสื่อสารผ่านคำพูดหรือตัวอักษร แต่ความหมายของภาษานั้นลึกซึ้งและกว้างขวางกว่านั้นมาก มันเป็นระบบสัญลักษณ์ที่ซับซ้อน ใช้แทนความคิด ความรู้สึก ประสบการณ์ และความหมายต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างบุคคล หรือแม้กระทั่งระหว่างกลุ่มชน และสิ่งสำคัญคือ ภาษาไม่จำกัดอยู่เพียงแค่รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แต่ครอบคลุมระบบสัญลักษณ์หลายมิติ ที่ทำงานประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ

การแบ่งประเภทของภาษาจึงไม่จำกัดอยู่เพียงแค่ “ภาษาพูด” และ “ภาษากาย” เช่นที่มักเข้าใจกัน แม้ว่าสองประเภทนี้จะเป็นองค์ประกอบหลัก และเป็นที่คุ้นเคยที่สุดก็ตาม เราสามารถขยายขอบเขตความหมายของภาษาได้ดังนี้:

  1. ภาษาพูด (Oral Language): เป็นระบบสัญลักษณ์ทางเสียง ประกอบด้วย เสียงคำพูด สำเนียง จังหวะเสียง และความไพเราะของภาษา ภาษาพูดมีความหลากหลายอย่างยิ่ง ขึ้นอยู่กับบริบท วัฒนธรรม และกลุ่มสังคม ตัวอย่างเช่น สำเนียงการพูดของคนภาคเหนือ จะแตกต่างจากสำเนียงการพูดของคนภาคใต้ ในขณะที่ภาษาพูดเดียวกัน แต่ใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน เช่น การสนทนากับเพื่อน หรือการบรรยายในที่ประชุม ก็จะมีรูปแบบและสำเนียงที่แตกต่างกันไปอีก

  2. ภาษากาย (Body Language): เป็นการสื่อสารผ่านท่าทาง สีหน้า และการเคลื่อนไหวของร่างกาย ภาษากายสามารถเสริม ขยาย หรือแม้กระทั่งขัดแย้งกับภาษาพูด ทำให้การสื่อสารมีความสมบูรณ์ และเข้าใจได้มากขึ้น การแสดงออกทางสีหน้า การสบตา และการใช้มือ ล้วนเป็นส่วนประกอบสำคัญของภาษากาย และสามารถบ่งบอกถึงอารมณ์ ความคิด และเจตนาของผู้สื่อสารได้อย่างชัดเจน

  3. ภาษาเขียน (Written Language): เป็นการสื่อสารผ่านตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ที่เป็นรูปธรรม ภาษาเขียนมีความเป็นทางการมากกว่าภาษาพูด และมักถูกใช้ในเอกสาร หนังสือ หรือการสื่อสารที่ต้องการความชัดเจน และความแม่นยำสูง ภาษาเขียนยังมีความสามารถในการบันทึกและถ่ายทอดข้อมูล ตลอดจนรักษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ได้เป็นอย่างดี

  4. ภาษาภาพ (Visual Language): เป็นการสื่อสารผ่านภาพ สัญลักษณ์ และการออกแบบ ภาษาภาพมีความสามารถในการสื่อสารข้อมูล ได้อย่างรวดเร็ว และเข้าใจได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนที่พูดภาษาต่างๆ กัน เช่น ป้ายจราจร แผนที่ และสัญลักษณ์ต่างๆ

  5. ภาษาศิลป์ (Artistic Language): เป็นการสื่อสารผ่านงานศิลปะ เช่น ภาพวาด ดนตรี การแสดง และวรรณกรรม ภาษาศิลป์สามารถถ่ายทอดอารมณ์ ความคิด และประสบการณ์ ได้อย่างลึกซึ้ง และสร้างแรงบันดาลใจ หรือสร้างความประทับใจ ให้กับผู้รับสาร

การศึกษาภาษาอย่างแท้จริง จึงควรครอบคลุมมิติต่างๆ เหล่านี้ เพื่อให้เข้าใจถึงความหลากหลาย และความซับซ้อน ของระบบสัญลักษณ์ที่มนุษย์ใช้ในการสื่อสาร และสร้างความสัมพันธ์กัน ไม่ใช่แค่การเรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์ เพียงอย่างเดียว