มาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ พ.ศ.2561 ประกอบด้วยมาตรฐานด้านใดบ้าง

3 การดู

มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ พ.ศ. 2561 ประกอบด้วย 3 ด้านหลัก ได้แก่ มาตรฐานคุณภาพผู้เรียน ครอบคลุมผลสัมฤทธิ์และลักษณะนิสัยที่ดีงาม มาตรฐานการบริหารจัดการ และมาตรฐานกระบวนการจัดการเรียนรู้เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มุ่งพัฒนาศักยภาพสูงสุดของผู้เรียนทุกคนอย่างเท่าเทียม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ พ.ศ. 2561

มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ พ.ศ. 2561 กำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการจัดการศึกษาสำหรับผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษในศูนย์การศึกษาพิเศษทั่วประเทศ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพสูงสุดของผู้เรียนอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม มาตรฐานดังกล่าวประกอบด้วย 3 ด้านหลัก ได้แก่

1. มาตรฐานคุณภาพผู้เรียน

มาตรฐานด้านนี้กำหนดผลสัมฤทธิ์และลักษณะนิสัยอันพึงประสงค์ที่ผู้เรียนควรบรรลุเมื่อจบการศึกษาในแต่ละระดับชั้น ประกอบด้วย:

  • มาตรฐานกลุ่มสาระการเรียนรู้ ครอบคลุมผลสัมฤทธิ์ด้านวิชาการใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศิลปะ สุขศึกษาและพลศึกษา ภาษาต่างประเทศ และการงานอาชีพและเทคโนโลยี
  • มาตรฐานการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เน้นการพัฒนาคุณสมบัติและทักษะในด้านต่างๆ เช่น คุณธรรม จริยธรรม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ทักษะการคิดขั้นสูง ทักษะการสื่อสาร และทักษะการทำงานเป็นทีม

2. มาตรฐานการบริหารจัดการ

มาตรฐานด้านนี้ครอบคลุมการบริหารจัดการภายในศูนย์การศึกษาพิเศษ เพื่อให้การจัดการศึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน ประกอบด้วย:

  • มาตรฐานการบริหาร รวมถึงการกำหนดนโยบาย วางแผน จัดสรรทรัพยากร และประเมินผลการดำเนินงานของศูนย์การศึกษาพิเศษ
  • มาตรฐานการจัดการทรัพยากร ครอบคลุมการจัดการบุคลากร งบประมาณ สิ่งอำนวยความสะดวก และสื่อการเรียนรู้
  • มาตรฐานการประกันคุณภาพภายใน เน้นการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายใน เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพการจัดการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

3. มาตรฐานกระบวนการจัดการเรียนรู้เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

มาตรฐานด้านนี้มุ่งเน้นการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองความต้องการและศักยภาพของผู้เรียนแต่ละคน โดยมีหลักการสำคัญดังนี้:

  • ผู้เรียนเป็นสำคัญ การจัดการเรียนรู้ต้องคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล และปรับการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียนแต่ละคน
  • การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เป็นรายบุคคล (IEP) แผนการจัดการเรียนรู้สำหรับผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษจะต้องมีการจัดทำเป็นรายบุคคล เพื่อกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้และวิธีการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสม
  • การประเมินผลที่หลากหลาย การประเมินผลผู้เรียนควรเป็นแบบองค์รวมและหลากหลาย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับความก้าวหน้าและความต้องการเพิ่มเติมของผู้เรียน
  • การให้การสนับสนุนที่จำเป็น ผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษอาจต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติม เช่น อุปกรณ์ช่วยในการเรียนรู้ บริการด้านการกายภาพบำบัด หรือบริการด้านจิตวิทยา เพื่อให้พวกเขาสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ

มาตรฐานเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการยกระดับคุณภาพการศึกษาสำหรับผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษในศูนย์การศึกษาพิเศษทั่วประเทศ โดยการกำหนดแนวทางที่ชัดเจนสำหรับการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการที่เป็นระบบ และการประกันคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนสามารถพัฒนาศักยภาพสูงสุดของตนได้อย่างเท่าเทียม