สัตว์สามารถจำแนกออกเป็นประเภทใหญ่ๆได้กี่ประเภท

การจำแนกสัตว์: มากกว่าแค่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์เลื้อยคลาน

โลกของสัตว์นั้นอุดมสมบูรณ์ไปด้วยความหลากหลายที่น่าทึ่ง ตั้งแต่สัตว์ขนาดเล็กจิ๋วที่มองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็นไปจนถึงสัตว์ขนาดมหึมาอย่างวาฬสีน้ำเงิน ความหลากหลายนี้ทำให้การจำแนกประเภทสัตว์เป็นเรื่องท้าทาย แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำความเข้าใจวิวัฒนาการและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตต่างๆ บนโลก

การจำแนกสัตว์แบบดั้งเดิมมักจะพิจารณาจากลักษณะทางกายภาพที่เห็นได้ชัด เช่น การมีกระดูกสันหลังหรือไม่มี ขนหรือเกล็ด วิธีการหายใจ และวิธีการสืบพันธุ์ วิธีการจำแนกแบบนี้แบ่งสัตว์ออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้หลายแบบ แต่ไม่มีการจำแนกแบบใดแบบหนึ่งที่เป็นที่ยอมรับอย่างถ้วนทั่ว เนื่องจากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านพันธุศาสตร์และชีววิทยาโมเลกุล ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนการจำแนกประเภทอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม เราสามารถกล่าวถึงระบบการจำแนกที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งแบ่งสัตว์ออกเป็น สองกลุ่มใหญ่ๆ คือ:

1. สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง (Invertebrates): กลุ่มนี้ประกอบด้วยสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นสัตว์ส่วนใหญ่บนโลก รวมถึงแมลง หอย หนอน แมงกะพรุน และอื่นๆ กลุ่มนี้มีความหลากหลายอย่างมากมาย ทั้งในด้านรูปร่าง ขนาด และพฤติกรรม การจำแนกสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเองก็ยังแบ่งย่อยออกไปอีกหลายไฟลัม (Phylum) ซึ่งเป็นหน่วยการจำแนกขั้นสูงกว่าชั้น อันเนื่องมาจากความหลากหลายที่สูงมากนั่นเอง

2. สัตว์มีกระดูกสันหลัง (Vertebrates): กลุ่มนี้ประกอบด้วยสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญที่ให้การรองรับและปกป้องอวัยวะภายใน สัตว์มีกระดูกสันหลังแบ่งออกเป็นห้าชั้นหลัก ได้แก่ ปลา สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์เลื้อยคลาน นก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่ละชั้นมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน เช่น วิธีการหายใจ วิธีการควบคุมอุณหภูมิร่างกาย และการสืบพันธุ์

สำคัญคือ การจำแนกประเภทสัตว์เป็นเพียงเครื่องมือในการจัดระเบียบความรู้ ระบบการจำแนกอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้า การใช้หลักการจำแนกแบบต่างๆ จึงทำให้เราสามารถทำความเข้าใจความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการและความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ได้ดียิ่งขึ้น การศึกษาสัตว์แต่ละชนิดอย่างลึกซึ้ง ไม่เพียงแต่จะทำให้เราเข้าใจโลกธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น แต่ยังช่วยให้เรารักและอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย