อายุความบังคับคดี 10 ปี นับอย่างไร
อายุความสิบปีสำหรับการบังคับคดีเริ่มนับจากวันที่คำพิพากษาถึงที่สุดมีผลบังคับใช้ ไม่ใช่จากวันที่ศาลออกคำสั่ง หรือวันที่เริ่มดำเนินการตามคำพิพากษา การขอผ่อนผันชำระหนี้ไม่หยุดนับอายุความ หากเลยสิบปีไปแล้ว เจ้าหนี้จะฟ้องบังคับคดีไม่ได้อีก
อายุความ 10 ปี บังคับคดี: ไขข้อสงสัย นับอย่างไรไม่ให้พลาดสิทธิ์
เมื่อศาลมีคำพิพากษาตัดสินคดีแพ่งให้ลูกหนี้ชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ กระบวนการไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น เพราะหากลูกหนี้ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา เจ้าหนี้จำเป็นต้องดำเนินการ “บังคับคดี” เพื่อให้ลูกหนี้ปฏิบัติตามคำสั่งศาล
แต่การบังคับคดีก็มีข้อจำกัดเรื่อง “อายุความ” ซึ่งเป็นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้เจ้าหนี้สามารถใช้สิทธิ์บังคับคดีได้ หากปล่อยเวลาล่วงเลยไป โอกาสที่จะได้รับชำระหนี้ก็จะหมดไปอย่างน่าเสียดาย
หัวใจสำคัญ: จุดเริ่มต้นนับอายุความ 10 ปี
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือ การนับอายุความ 10 ปี เริ่มจากวันที่ศาลมีคำสั่งให้บังคับคดี หรือวันที่เริ่มดำเนินการตามคำพิพากษา ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ ผิด
อายุความ 10 ปีสำหรับการบังคับคดี เริ่มนับจาก “วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด”
- คำพิพากษาถึงที่สุด หมายถึง คำพิพากษาที่ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาต่อแล้ว หรือหากมีการยื่นอุทธรณ์หรือฎีกา คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาได้มีคำตัดสินแล้ว
ทำไมต้อง “คำพิพากษาถึงที่สุด”?
เพราะเป็นวันที่สิทธิและหน้าที่ตามคำพิพากษาเป็นที่ยุติและชัดเจน เมื่อคำพิพากษาถึงที่สุด เจ้าหนี้จึงมีสิทธิอย่างเต็มที่ในการบังคับคดี และกฎหมายจึงกำหนดให้เริ่มนับอายุความตั้งแต่วันนั้น
ตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น:
สมมติว่าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ลูกหนี้ชำระหนี้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2566 หากลูกหนี้ไม่ยื่นอุทธรณ์ภายในระยะเวลาที่กำหนด คำพิพากษาจะถึงที่สุด (เช่น 30 วัน) นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 + 30 วัน = วันที่ 31 มกราคม 2566 ดังนั้น อายุความ 10 ปีสำหรับการบังคับคดี จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
ขอผ่อนผันชำระหนี้…หยุดนับอายุความหรือไม่?
คำตอบคือ ไม่หยุดนับ การที่ลูกหนี้ขอผ่อนผันชำระหนี้ หรือมีการเจรจาประนอมหนี้ ไม่ได้ทำให้ระยะเวลาของอายุความหยุดลง เจ้าหนี้ยังคงต้องดำเนินการบังคับคดีภายในระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด
ผลกระทบหากปล่อยให้เลย 10 ปี:
หากเจ้าหนี้ปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการบังคับคดีภายใน 10 ปี นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด สิทธิในการบังคับคดีจะสิ้นสุดลง เจ้าหนี้จะไม่สามารถฟ้องร้องบังคับคดีได้อีกต่อไป แม้ว่าลูกหนี้จะยังคงเป็นหนี้อยู่ก็ตาม
สิ่งที่เจ้าหนี้ควรทำ:
- ตรวจสอบวันที่คำพิพากษาถึงที่สุด: เพื่อให้ทราบจุดเริ่มต้นของการนับอายุความอย่างถูกต้อง
- วางแผนการบังคับคดี: กำหนดแนวทางการบังคับคดีที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของลูกหนี้
- ดำเนินการบังคับคดีอย่างต่อเนื่อง: อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปจนเกิน 10 ปี
- ปรึกษาทนายความ: เพื่อขอคำแนะนำและดำเนินการทางกฎหมายอย่างถูกต้อง
สรุป:
การเข้าใจเรื่องอายุความในการบังคับคดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าหนี้ การนับอายุความที่ถูกต้อง และการดำเนินการบังคับคดีอย่างทันท่วงที จะช่วยให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้อย่างเป็นธรรมและรักษาผลประโยชน์ของตนเองได้อย่างเต็มที่ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ควรปรึกษาทนายความเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของท่าน
#10 ปี#คดี#อายุความข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต