แม่สี 7 สี มีสีอะไรบ้าง

2 การดู

สีรุ้งเจ็ดสี คือ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง ส้ม แดง แต่ละสีมีความยาวคลื่นแสงแตกต่างกัน เมื่อรวมกันแล้วจะสร้างแสงสีขาว การเรียงลำดับสีนี้เกิดจากการหักเหของแสงผ่านหยดน้ำ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่สวยงาม เช่น รุ้งกินน้ำ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เผยความลับแห่งรุ้งกินน้ำ: เจาะลึก 7 สีสันแห่งปรากฏการณ์ธรรมชาติ

รุ้งกินน้ำ ปรากฏการณ์ธรรมชาติอันงดงามที่ปรากฏบนท้องฟ้าหลังฝนพรำ คือภาพที่ตรึงตาตรึงใจใครหลายคน ด้วยสีสันที่สดใสและเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ แต่เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า ทำไมรุ้งกินน้ำถึงมีเพียง 7 สี และสีเหล่านั้นมีความพิเศษอย่างไร? บทความนี้จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกแห่งสีสันของรุ้งกินน้ำ ไขความลับเบื้องหลังปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งนี้

รุ้งกินน้ำ: บทเพลงแห่งแสงและน้ำ

รุ้งกินน้ำไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดจากการทำงานร่วมกันของแสงอาทิตย์และหยดน้ำในอากาศ แสงอาทิตย์ซึ่งโดยปกติแล้วเรามองเห็นเป็นสีขาวนั้น จริงๆแล้วประกอบไปด้วยสีต่างๆมากมาย เมื่อแสงเดินทางผ่านหยดน้ำ แสงจะเกิดการหักเห (Refraction) ทำให้สีต่างๆ แยกตัวออกจากกัน และสะท้อนกลับออกมา (Reflection) จากด้านในของหยดน้ำ ก่อนจะหักเหอีกครั้งเมื่อออกจากหยดน้ำสู่สายตาของเรา กระบวนการเหล่านี้ทำให้เรามองเห็นแสงสีต่างๆ แยกกันเป็นแถบสีที่เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ

เจาะลึก 7 สีสันแห่งรุ้งกินน้ำ:

ตามที่เราทราบกันดี รุ้งกินน้ำประกอบด้วย 7 สีหลัก ได้แก่:

  1. สีม่วง: สีที่อยู่ด้านในสุดของรุ้งกินน้ำ มีความยาวคลื่นสั้นที่สุดในบรรดาสีทั้งหมด
  2. สีคราม: สีที่อยู่ถัดจากสีม่วง มีความยาวคลื่นที่สั้นกว่าสีน้ำเงินเล็กน้อย มักถูกมองว่าเป็นสีน้ำเงินเข้มจัด
  3. สีน้ำเงิน: สีที่คุ้นเคยกันดี เป็นสีที่พบเห็นได้ทั่วไปในธรรมชาติ เช่น ท้องฟ้าและทะเล
  4. สีเขียว: สีที่สื่อถึงความสดชื่นและความอุดมสมบูรณ์ เป็นสีที่พบได้ในพืชพรรณต่างๆ
  5. สีเหลือง: สีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสดใส เป็นสีที่พบได้ในแสงอาทิตย์และดอกไม้หลายชนิด
  6. สีส้ม: สีที่ผสมผสานระหว่างสีเหลืองและสีแดง เป็นสีที่ให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีชีวิตชีวา
  7. สีแดง: สีที่อยู่ด้านนอกสุดของรุ้งกินน้ำ มีความยาวคลื่นยาวที่สุดในบรรดาสีทั้งหมด

ความยาวคลื่นและพลังงานของแสง:

แต่ละสีในรุ้งกินน้ำมีความยาวคลื่น (Wavelength) และพลังงาน (Energy) ที่แตกต่างกัน โดยสีม่วงมีความยาวคลื่นสั้นที่สุดและพลังงานสูงสุด ในขณะที่สีแดงมีความยาวคลื่นยาวที่สุดและพลังงานต่ำสุด ความแตกต่างนี้เองที่ทำให้แสงสีต่างๆ หักเหในมุมที่แตกต่างกันเมื่อผ่านหยดน้ำ และทำให้เกิดการเรียงตัวของสีที่เราเห็นในรุ้งกินน้ำ

รุ้งกินน้ำ: มากกว่าแค่ปรากฏการณ์ทางแสง

รุ้งกินน้ำไม่ได้เป็นเพียงแค่ปรากฏการณ์ทางแสงที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ความสุข และการเริ่มต้นใหม่ ในหลายวัฒนธรรม รุ้งกินน้ำถูกมองว่าเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์และโลกแห่งเทพเจ้า เป็นเครื่องหมายแห่งคำสัญญา และเป็นสัญญาณของโชคดี

บทสรุป:

รุ้งกินน้ำคือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการผสมผสานกันอย่างลงตัวของแสงอาทิตย์และหยดน้ำ ทำให้เกิดเป็นภาพสีสันที่สวยงามและน่าประทับใจ การทำความเข้าใจถึงกระบวนการเกิดรุ้งกินน้ำและความพิเศษของแต่ละสีสัน จะช่วยให้เราชื่นชมความงามของธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น และตระหนักถึงความมหัศจรรย์ของโลกที่เราอาศัยอยู่