ไข้เลือดออกในเด็ก กี่วัน

4 การดู

ไข้เลือดออกมี 3 ระยะหลัก: ระยะไข้สูง ที่มีไข้สูง หน้าแดง เบื่ออาหาร ระยะวิกฤต ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และ ระยะพักฟื้น ที่อาการเริ่มดีขึ้น เริ่มอยากอาหาร การสังเกตอาการและรีบพบแพทย์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อการรักษาที่ทันท่วงที ป้องกันภาวะแทรกซ้อน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไข้เลือดออกในเด็ก: กี่วันและอาการต่าง ๆ

ไข้เลือดออกเป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค โรคนี้พบได้บ่อยในเขตร้อนชื้น รวมถึงประเทศไทย โดยเด็กเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจติดเชื้อได้ง่าย

ระยะของไข้เลือดออก

โดยทั่วไป ไข้เลือดออกจะมี 3 ระยะหลัก ได้แก่

  1. ระยะไข้สูง (2-7 วัน)

    • มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส
    • หน้าแดง
    • เบื่ออาหาร
    • ปวดศีรษะ
    • ปวดเมื่อยตามตัว
    • อาจมีอาการอื่น ๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้องร่วมด้วย
  2. ระยะวิกฤต (2-3 วัน)

    • ไข้จะลดลงหรือหายไป
    • อาจมีอาการทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
    • อาจมีจุดเลือดออกตามผิวหนัง เลือดกำเดาไหล หรือถ่ายอุจจาระเป็นเลือด
    • อาจมีอาการช็อก เช่น หน้าซีด ตัวเย็น เหงื่อออกมาก กระสับกระส่าย
  3. ระยะพักฟื้น (2-4 สัปดาห์)

    • อาการเริ่มดีขึ้น
    • เริ่มอยากอาหาร
    • อาจมีอาการอ่อนเพลียหรือเบื่ออาหารได้บ้าง

การสังเกตอาการและการรักษา

หากเด็กมีไข้สูงและอาการอื่น ๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นอาการของไข้เลือดออกได้ ในระหว่างที่รอพบแพทย์ ให้สังเกตอาการเด็กอย่างใกล้ชิด และให้เด็กดื่มน้ำเกลือแร่หรือสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ (ORS) เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ

การรักษาไข้เลือดออกในเด็กจะขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค โดยแพทย์จะให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้ ให้สารน้ำเกลือเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และอาจให้ยาอื่น ๆ เพื่อบรรเทาอาการตามความเหมาะสม ในกรณีที่เด็กมีอาการรุนแรง อาจต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าดูอาการและให้การรักษาอย่างใกล้ชิด

การป้องกันไข้เลือดออก

วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไข้เลือดออกคือการป้องกันไม่ให้โดนยุงกัด โดยมีวิธีการดังนี้

  • สวมเสื้อผ้าแขนยาวและกางเกงขายาว
  • ทายากันยุงที่มีส่วนผสมของสาร DEET, Picaridin หรือ IR3535
  • กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงโดยการกำจัดแหล่งน้ำขัง
  • ติดตั้งมุ้งลวดที่หน้าต่างและประตู