1st 2nd 3rd เขียนยังไง
ลำดับที่ 11: เฟิร์ส (First) ลำดับที่ 12: ทเวลฟ์ (Twelfth) ลำดับที่ 13: เธอร์ทีน (Thirteenth) ลำดับที่ 14: โฟร์ทีน (Fourteenth) ลำดับที่ 15: ฟิฟทีน (Fifteenth) ลำดับที่ 16: ซิกซ์ทีน (Sixteenth) ลำดับที่ 17: เซเว่นทีน (Seventeenth) ลำดับที่ 18: เอียทีน (Eighteenth) ลำดับที่ 19: ไนน์ทีน (Nineteenth) ลำดับที่ 20: ทเวนที (Twentieth)
กว่าจะถึงที่หนึ่ง: ไขความลับการเขียนลำดับที่ในภาษาอังกฤษอย่างมืออาชีพ
การระบุลำดับที่ในภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่เราพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการบอกวันที่, การจัดอันดับ, หรือแม้กระทั่งการบอกชั้นของอาคาร แต่หลายครั้งเราก็ยังสับสนว่าจะเขียนอย่างไรให้ถูกต้องและดูเป็นมืออาชีพ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกวิธีการเขียนลำดับที่ตั้งแต่ที่หนึ่งจนถึงเลขหลักสิบหลักร้อย พร้อมเคล็ดลับและข้อควรระวังที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!
เริ่มต้นที่พื้นฐาน: First, Second, Third…
แน่นอนว่าเราทุกคนคุ้นเคยกับคำว่า “First”, “Second”, และ “Third” ซึ่งเป็นข้อยกเว้นที่สำคัญและต้องจำให้ขึ้นใจ เพราะคำเหล่านี้ไม่ได้ใช้หลักการเติม “th” เหมือนตัวเลขอื่นๆ
- First (1st): ที่หนึ่ง, อันดับแรก
- Second (2nd): ที่สอง, อันดับที่สอง
- Third (3rd): ที่สาม, อันดับที่สาม
กฎเหล็กของ “th”: เติม “th” คือทางรอด
หลังจากผ่านพ้นสามอันดับแรกไปแล้ว กฎเหล็กที่ง่ายที่สุดคือการเติม “th” ต่อท้ายตัวเลขปกติ เพื่อสร้างคำที่แสดงลำดับที่ เช่น
- Fourth (4th): ที่สี่
- Fifth (5th): ที่ห้า
- Sixth (6th): ที่หก
- Seventh (7th): ที่เจ็ด
- Eighth (8th): ที่แปด
- Ninth (9th): ที่เก้า
- Tenth (10th): ที่สิบ
เมื่อเลขลงท้ายด้วย 1, 2, หรือ 3: กลับไปใช้ First, Second, Third!
เมื่อตัวเลขมีหลักสิบและลงท้ายด้วย 1, 2, หรือ 3 เราจะกลับไปใช้ “First”, “Second”, และ “Third” อีกครั้ง แต่จะใช้เฉพาะกับเลขหลักหน่วยเท่านั้น เช่น
- Eleventh (11th): ที่สิบเอ็ด
- Twelfth (12th): ที่สิบสอง
- Thirteenth (13th): ที่สิบสาม
- Fourteenth (14th): ที่สิบสี่
- Fifteenth (15th): ที่สิบห้า
- Sixteenth (16th): ที่สิบหก
- Seventeenth (17th): ที่สิบเจ็ด
- Eighteenth (18th): ที่สิบแปด
- Nineteenth (19th): ที่สิบเก้า
- Twentieth (20th): ที่ยี่สิบ (มีการเปลี่ยนรูปจาก twenty เป็น twentieth)
หลักสิบ หลักร้อย และสูงกว่านั้น: เน้นที่หลักหน่วย
เมื่อตัวเลขซับซ้อนขึ้น เรายังคงใช้หลักการเดิม นั่นคือการเปลี่ยนเฉพาะเลขหลักหน่วยให้เป็นลำดับที่ เช่น
- Twenty-first (21st): ที่ยี่สิบเอ็ด
- Thirty-second (32nd): ที่สามสิบสอง
- Forty-third (43rd): ที่สี่สิบสาม
- One hundred and first (101st): ที่หนึ่งร้อยเอ็ด
- Two hundred and twenty-second (222nd): ที่สองร้อยยี่สิบสอง
- One thousand and fifty-third (1053rd): ที่หนึ่งพันห้าสิบสาม
ข้อควรระวังและเคล็ดลับเพิ่มเติม:
- การสะกดคำ: ระวังการสะกดคำที่มักผิดพลาด เช่น “Fifth” (ไม่ใช่ “Fith”), “Twelfth” (ไม่ใช่ “Twelveth”), และ “Ninth” (ไม่ใช่ “Ninthth”)
- การใช้ Hyphen: ในตัวเลขผสมที่เขียนเป็นคำ (เช่น twenty-one) เราจะใช้ hyphen เชื่อมคำ
- ความแตกต่างระหว่าง Cardinal Numbers และ Ordinal Numbers: Cardinal numbers คือตัวเลขปกติ (1, 2, 3) ส่วน Ordinal numbers คือตัวเลขที่แสดงลำดับที่ (1st, 2nd, 3rd)
- การเลือกใช้: ในบริบทที่เป็นทางการ ควรเขียนลำดับที่เป็นคำเต็ม (เช่น “first”, “second”) แต่ในตารางหรือรายการที่ต้องการความกระชับ สามารถใช้ตัวย่อ (1st, 2nd) ได้
สรุป:
การเขียนลำดับที่ในภาษาอังกฤษอาจดูเหมือนซับซ้อน แต่ถ้าเราเข้าใจหลักการพื้นฐานและข้อควรระวังต่างๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ลองฝึกฝนและนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน แล้วคุณจะมั่นใจกับการใช้ลำดับที่ในภาษาอังกฤษอย่างแน่นอน!
#อันดับ 1#อันดับ 2#อันดับ 3ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต