Admission รอบ 1 กับ 2 ต่างกันยังไง
การสอบ TCAS ประกอบด้วยการสอบ 4 รอบ ได้แก่
- รอบที่ 1: แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) สามารถสมัครได้ไม่จำกัดจำนวนสาขาที่มหาวิทยาลัย
- รอบที่ 2: โควตา สมัครได้ไม่จำกัดจำนวนสาขาที่มหาวิทยาลัย
- รอบที่ 3: รับตรงร่วมกัน (Admission 1) สมัครผ่านระบบ TCAS เลือกสมัครได้สูงสุด 6 อันดับ
- รอบที่ 4: รับกลางร่วมกัน (Admission 2) สมัครผ่านระบบ TCAS เลือกสมัครได้สูงสุด 4 อันดับ
Admission รอบ 1 กับ 2: ความแตกต่างที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือก
ระบบ TCAS เป็นระบบการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่มุ่งเน้นความรอบด้านของผู้สมัคร โดยแบ่งการรับสมัครออกเป็น 4 รอบ ซึ่งรอบที่ 3 (Admission 1) และ รอบที่ 4 (Admission 2) มักสร้างความสับสนให้กับผู้สมัครหลายคน บทความนี้จะอธิบายความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Admission รอบ 1 และ 2 เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกเส้นทางที่เหมาะสมกับตัวเองได้อย่างมั่นใจ
ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจว่าทั้ง Admission รอบ 1 และ 2 เป็นระบบการคัดเลือกกลาง หมายความว่าเป็นระบบที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ร่วมกันกำหนดเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก ซึ่งแตกต่างจากรอบ 1 (แฟ้มสะสมผลงาน) และรอบ 2 (โควตา) ที่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งกำหนดเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกเอง
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Admission รอบ 1 (รับตรงร่วมกัน) และ Admission รอบ 2 (รับกลางร่วมกัน):
คุณลักษณะ | Admission รอบ 1 (รับตรงร่วมกัน) | Admission รอบ 2 (รับกลางร่วมกัน) |
---|---|---|
ระยะเวลาการสมัคร | มักเปิดรับสมัครก่อน Admission รอบ 2 | เปิดรับสมัครหลัง Admission รอบ 1 |
จำนวนสาขาที่เลือกได้ | เลือกได้สูงสุด 6 อันดับ | เลือกได้สูงสุด 4 อันดับ |
เกณฑ์การคัดเลือก | มักเน้นผลการเรียนและคะแนนสอบ GAT/PAT หรือเกณฑ์เฉพาะของแต่ละมหาวิทยาลัย | มักเน้นผลการเรียนและคะแนนสอบ GAT/PAT หรือเกณฑ์เฉพาะของแต่ละมหาวิทยาลัย อาจมีน้ำหนักแตกต่างจากรอบ 1 |
โอกาส | โอกาสในการเข้าศึกษาสูงกว่าเนื่องจากจำนวนที่นั่งที่เปิดรับมากกว่ารอบ 2 และ สมัครได้มากกว่า | โอกาสในการเข้าศึกษาอาจน้อยกว่ารอบ 1 เนื่องจากมีที่นั่งเหลือจากรอบ 1 แต่มีข้อดีคือสามารถใช้คะแนนสอบที่ได้จากรอบ 1 มาสมัครได้ |
ความเสี่ยง | ความเสี่ยงในการไม่ได้รับการคัดเลือกค่อนข้างสูง เนื่องจากการแข่งขันสูง และจำนวนที่นั่งมีจำกัด | ความเสี่ยงในการไม่ได้รับการคัดเลือกอาจต่ำกว่ารอบ 1 เนื่องจากจำนวนผู้สมัครต่อที่นั่งอาจน้อยกว่า |
สรุป:
Admission รอบ 1 และ 2 ต่างก็เป็นโอกาสสำคัญในการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำ แต่มีความแตกต่างกันในด้านจำนวนสาขาที่เลือกได้ ระยะเวลาการสมัคร และเกณฑ์การคัดเลือก ผู้สมัครควรพิจารณาผลการเรียน คะแนนสอบ ความถนัด และเป้าหมายทางการศึกษาของตนเอง รวมทั้งศึกษาข้อมูลเกณฑ์การคัดเลือกของแต่ละมหาวิทยาลัยอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกสมัครรอบที่เหมาะสมที่สุด
คำแนะนำเพิ่มเติม: การเตรียมตัวที่ดี การวางแผนการเลือกสาขาที่เหมาะสม และการติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเพิ่มโอกาสในการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่คุณใฝ่ฝัน
#Admission#รอบ1รอบ2#รอบadmissionข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต