GPAX คํานวณอย่างไร

ไขความลับ GPAX: คำนวณอย่างไรให้เข้าใจง่าย

GPAX หรือ Grade Point Average (GPA) สะสม เป็นตัวเลขสำคัญที่สะท้อนผลการเรียนตลอดหลักสูตรของนักศึกษา เป็นดั่งภาพรวมที่แสดงให้เห็นความสามารถและความพยายามทางวิชาการตลอดระยะเวลาที่เรียน หลายคนอาจเข้าใจว่าการคำนวณ GPAX ยุ่งยาก แต่จริงๆ แล้วหลักการไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด บทความนี้จะอธิบายวิธีการคำนวณ GPAX อย่างละเอียด เข้าใจง่าย พร้อมยกตัวอย่างประกอบ

ขั้นตอนการคำนวณ GPAX:

1. กำหนดค่าเกรด: ก่อนอื่น เราต้องรู้ค่าเกรดของแต่ละวิชา โดยทั่วไปมหาวิทยาลัยจะใช้ระบบเกรด 4.00 หรืออาจมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เช่น 4.00, 3.50, 3.00, 2.50, 2.00, 1.50, 1.00, 0.00 (หรืออาจมีเกรด F หรือเกรดอื่นๆเพิ่มเติม)

2. ระบุหน่วยกิตของแต่ละวิชา: วิชาแต่ละวิชามีจำนวนหน่วยกิตที่แตกต่างกันไป เช่น วิชา A มี 3 หน่วยกิต วิชา B มี 2 หน่วยกิต เป็นต้น ข้อมูลนี้จะพบได้ในหลักสูตรหรือใบรายงานผลการเรียน

3. คำนวณผลคูณของเกรดและหน่วยกิต: สำหรับแต่ละวิชา ให้คูณค่าเกรดของวิชานั้นด้วยจำนวนหน่วยกิตของวิชา เช่น วิชา A ได้เกรด 3.50 และมี 3 หน่วยกิต ผลคูณคือ 3.50 x 3 = 10.50

4. รวมผลคูณทั้งหมด: นำผลคูณจากทุกวิชาที่เรียนมาทั้งหมดมารวมกัน สมมุติว่ารวมแล้วได้ค่า X

5. รวมหน่วยกิตทั้งหมด: นำหน่วยกิตของทุกวิชาที่นำมาคำนวณมารวมกัน สมมุติว่ารวมแล้วได้ค่า Y

6. คำนวณ GPAX: หารค่า X (ผลรวมของผลคูณเกรดและหน่วยกิต) ด้วยค่า Y (ผลรวมของหน่วยกิตทั้งหมด) ผลลัพธ์ที่ได้คือ GPAX

ตัวอย่าง:

สมมุติว่านักศึกษาเรียน 3 วิชา ดังนี้:

ผลรวมของผลคูณ (X) = 10.50 + 8.00 + 9.00 = 27.50
ผลรวมของหน่วยกิต (Y) = 3 + 2 + 3 = 8

GPAX = X / Y = 27.50 / 8 = 3.44

ดังนั้น GPAX ของนักศึกษาในตัวอย่างนี้คือ 3.44

หมายเหตุ: วิธีการคำนวณ GPAX อาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามนโยบายของแต่ละสถาบัน ควรตรวจสอบวิธีการคำนวณที่ถูกต้องจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาของตนเอง นอกจากนี้ บางสถาบันอาจมีเกณฑ์ในการคำนวณ GPAX ที่แตกต่างกัน เช่น คำนวณเฉพาะวิชาที่ผ่านเท่านั้น หรืออาจมีการถ่วงน้ำหนักของวิชาบางวิชา

การเข้าใจวิธีคำนวณ GPAX ช่วยให้นักศึกษาสามารถติดตามและวางแผนการเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถประเมินผลการเรียนของตนเองได้อย่างถูกต้องและวางแผนปรับปรุงผลการเรียนให้ดีขึ้นต่อไป