T score คืออะไร กระดูก

21 การดู

T-score วัดความหนาแน่นของมวลกระดูกโดยเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของคนหนุ่มสาวอายุ 30 ปีที่มีสุขภาพดี ค่าที่ได้จะบ่งบอกความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน ต่างจาก Z-score ที่เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของคนในวัยเดียวกัน ช่วยแพทย์ประเมินสุขภาพกระดูกได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

T-score ในการประเมินสุขภาพกระดูก: การวัดความแข็งแรงที่แม่นยำ

กระดูกเป็นโครงสร้างสำคัญของร่างกาย มีหน้าที่ทั้งในการรองรับน้ำหนักและการเคลื่อนไหว แต่ความหนาแน่นของมวลกระดูกอาจลดลงตามอายุ การลดลงนี้หากรุนแรงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน ซึ่งนำไปสู่ความเปราะบางและเพิ่มโอกาสการหักง่าย

เพื่อประเมินความหนาแน่นของมวลกระดูกอย่างแม่นยำ แพทย์มักใช้เครื่องมือที่เรียกว่า DEXA Scan (Dual Energy X-ray Absorptiometry) ผลการตรวจวัดนี้จะแสดงออกมาเป็นค่า T-score และ Z-score สองค่านี้มีความสำคัญอย่างไร และแตกต่างกันอย่างไร

T-score คือค่าที่เปรียบเทียบความหนาแน่นของมวลกระดูกของผู้ป่วยกับค่าเฉลี่ยของคนหนุ่มสาวที่มีสุขภาพดี อายุ 30 ปี ค่าเฉลี่ยนี้ถือเป็นค่ามาตรฐานที่อ้างอิง ค่า T-score มีการกำหนดช่วงเปรียบเทียบดังนี้:

  • T-score ตั้งแต่ +1 ถึง -1: แสดงถึงความหนาแน่นของมวลกระดูกปกติ มีความแข็งแรงเพียงพอ
  • T-score ตั้งแต่ -1 ถึง -2.5: แสดงถึงความหนาแน่นของมวลกระดูกต่ำ หรือเริ่มเข้าสู่ภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน
  • T-score ต่ำกว่า -2.5: แสดงถึงความหนาแน่นของมวลกระดูกต่ำมาก ซึ่งบ่งบอกถึงภาวะโรคกระดูกพรุน และมีโอกาสสูงที่จะเกิดกระดูกหักจากการกระแทกเพียงเล็กน้อย

ความแตกต่างระหว่าง T-score กับ Z-score: ทั้งสองค่านี้วัดความหนาแน่นของมวลกระดูก แต่มีจุดประสงค์แตกต่างกัน T-score เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของคนหนุ่มสาวอายุ 30 ปี ส่วน Z-score เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของคนในช่วงอายุเดียวกัน

ดังนั้น T-score จึงมีความสำคัญในการประเมินความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประชากรที่อายุเพิ่มขึ้น เพราะจะช่วยให้สามารถระบุกลุ่มเสี่ยงและวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การทราบค่า T-score ช่วยให้บุคคลและแพทย์สามารถเฝ้าติดตามสุขภาพกระดูกและวางแผนการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม รวมทั้งสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของการรักษาที่ใช้กับโรคกระดูกพรุนได้ และในที่สุด การมีกระดูกที่แข็งแรงช่วยเสริมสร้างสุขภาพโดยรวมให้ดียิ่งขึ้น

ข้อแนะนำ: ข้อมูลในบทความนี้มีไว้เพื่อการศึกษาและให้ความรู้ทั่วไปเท่านั้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการวินิจฉัยที่ถูกต้องเกี่ยวกับสุขภาพกระดูกของคุณ