เวนคืนกรมธรรม์ ได้กี่%

เงินด่วนจากกรมธรรม์: เวนคืน หรือ กู้ดี? เลือกทางที่ใช่ เข้าใจ % ให้ชัดเจน

เมื่อชีวิตผกผัน เงินทองขาดมือ หลายคนอาจมองหากรมธรรม์ประกันชีวิตที่ถืออยู่เป็นแหล่งเงินทุนฉุกเฉินที่พึ่งพิงได้ แต่การเข้าถึงเงินจากกรมธรรม์ก็มีสองทางเลือกหลักๆ คือ การเวนคืนกรมธรรม์ และ การกู้เงินจากกรมธรรม์ ซึ่งแต่ละทางก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของ “เปอร์เซ็นต์” ที่จะได้รับ

เวนคืนกรมธรรม์: ทางเลือกสุดท้ายที่ต้องคิดให้รอบคอบ

การเวนคืนกรมธรรม์ คือการยกเลิกสัญญากับบริษัทประกันก่อนครบกำหนด โดยแลกกับการได้รับเงินคืนส่วนหนึ่งที่เรียกว่า “มูลค่าเวนคืนกรมธรรม์” ซึ่งมูลค่านี้จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น:

• ชนิดของกรมธรรม์: กรมธรรม์บางประเภท เช่น ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit Linked) อาจมีมูลค่าเวนคืนที่ผันผวนตามผลการลงทุน
• ระยะเวลาที่ถือครองกรมธรรม์: โดยทั่วไป ยิ่งถือกรมธรรม์นาน มูลค่าเวนคืนก็จะยิ่งสูงขึ้น แต่ในช่วงแรกๆ อาจมีมูลค่าเวนคืนที่ต่ำมาก หรือแทบไม่มีเลย
• เงื่อนไขของบริษัทประกัน: แต่ละบริษัทอาจมีสูตรการคำนวณมูลค่าเวนคืนที่แตกต่างกัน

คำถามสำคัญคือ “เวนคืนกรมธรรม์ ได้กี่ %?” คำตอบคือ “ไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขตายตัวได้” เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น การทราบเปอร์เซ็นต์ที่แน่นอนต้องติดต่อบริษัทประกันภัยโดยตรง เพื่อสอบถามมูลค่าเวนคืน ณ ปัจจุบันของกรมธรรม์ของคุณ

ข้อควรพิจารณาในการเวนคืนกรมธรรม์:

• การสูญเสียความคุ้มครอง: การเวนคืนหมายถึงการยกเลิกความคุ้มครองทั้งหมดที่กรมธรรม์มอบให้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคต หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น เจ็บป่วย หรือเสียชีวิต
• การเสียโอกาสในการออม: กรมธรรม์ประกันชีวิตบางประเภทมีส่วนของการออม หากเวนคืนก่อนกำหนด ก็อาจเสียโอกาสในการได้รับผลตอบแทนจากการออม
• การเสียภาษี: ในบางกรณี การเวนคืนกรมธรรม์อาจมีภาระทางภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง

กู้เงินจากกรมธรรม์: ทางเลือกที่รักษาสิทธิ์ความคุ้มครอง

การกู้เงินจากกรมธรรม์ เป็นการขอสินเชื่อโดยใช้กรมธรรม์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยทั่วไปสามารถกู้ได้ประมาณ 70-85% ของมูลค่าเวนคืน (ตามที่บทความต้นทางระบุ) ซึ่งเป็นข้อดีที่ช่วยให้เข้าถึงเงินด่วนได้โดยไม่ต้องยกเลิกกรมธรรม์

ข้อดีของการกู้เงินจากกรมธรรม์:

• รักษาสิทธิ์ความคุ้มครอง: กรมธรรม์ยังคงมีผลบังคับใช้ และยังคงได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขเดิม
• ไม่ต้องเสียภาษี: การกู้เงินไม่ถือเป็นรายได้ จึงไม่ต้องเสียภาษี
• กระบวนการอนุมัติที่รวดเร็ว: เนื่องจากใช้กรมธรรม์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ทำให้กระบวนการอนุมัติมักจะรวดเร็วกว่าสินเชื่อประเภทอื่นๆ

ข้อควรพิจารณาในการกู้เงินจากกรมธรรม์:

• เสียดอกเบี้ย: การกู้เงินจากกรมธรรม์มีอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย ซึ่งอาจสูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่นๆ
• ภาระหนี้สิน: ต้องวางแผนการชำระหนี้ให้ดี เพื่อไม่ให้กระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน
• ผลกระทบต่อความคุ้มครอง: หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด บริษัทประกันอาจหักเงินจากผลประโยชน์ที่ได้รับจากกรมธรรม์ หรืออาจยกเลิกกรมธรรม์ได้

สรุป: เลือกทางที่เหมาะกับคุณ

ก่อนตัดสินใจว่าจะเวนคืนกรมธรรม์ หรือกู้เงินจากกรมธรรม์ ควรพิจารณาถึงความจำเป็นทางการเงิน ความสามารถในการชำระหนี้ และผลกระทบต่อความคุ้มครองในระยะยาว อย่าลืมติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อสอบถามข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดและเลือกทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสถานการณ์ของคุณ