Things คือคำที่นาย Kevin ใช้เรียกแทนอะไร

“Things” ใน Internet of Things: มิติที่กว้างใหญ่ไกลเกินกว่าคำจำกัดความ

ดร. Kevin Ashton ผู้บัญญัติศัพท์ Internet of Things (IoT) หรือ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง มักถูกเข้าใจผิดว่าใช้คำว่า “Things” เพื่ออ้างถึงสิ่งของหรือวัตถุใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ ความจริงแล้ว “Things” ในบริบทนี้มีความหมายที่กว้างขวางและครอบคลุมยิ่งกว่านั้นมาก

แทนที่จะเป็นคำจำกัดความที่ตายตัว “Things” ใน IoT คือตัวแทนของกลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลากหลายประเภท ที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงทั้งในด้านขนาด หน้าที่ และความซับซ้อน ตั้งแต่สิ่งเล็กจิ๋วอย่างเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิหรือความชื้น ซึ่งอาจมีขนาดไม่เกินปลายนิ้วหัวแม่มือ ไปจนถึงเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ในโรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ เครื่องบิน หรือแม้แต่ระบบสาธารณูปโภคขนาดมหึมา

จุดร่วมสำคัญของ “Things” เหล่านี้คือ ความสามารถในการเชื่อมต่อและสื่อสารข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยอาศัยเทคโนโลยีต่างๆ เช่น Wi-Fi, Bluetooth, Zigbee หรือเครือข่ายเซลลูลาร์ การเชื่อมต่อนี้ทำให้ “Things” สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล ประมวลผลข้อมูล และทำงานร่วมกันได้อย่างอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องมีการควบคุมจากมนุษย์โดยตรง

ตัวอย่าง “Things” ในชีวิตประจำวันอาจรวมถึง:

• สมาร์ทโฟน: อุปกรณ์สื่อสารที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ในระบบ IoT ได้
• นาฬิกาอัจฉริยะ: ติดตามข้อมูลสุขภาพ และแจ้งเตือนต่างๆ ผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
• เซ็นเซอร์ตรวจจับควัน: แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบควัน เพื่อป้องกันอัคคีภัย
• หลอดไฟอัจฉริยะ: ควบคุมการเปิด-ปิด และปรับเปลี่ยนสีแสงได้ผ่านแอปพลิเคชัน
• ระบบรักษาความปลอดภัยบ้านอัจฉริยะ: รวมกล้องวงจรปิด เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว และระบบล็อกประตูอัตโนมัติ

ดังนั้น “Things” จึงไม่ใช่คำที่จำกัดความเฉพาะเจาะจง แต่เป็นคำที่แสดงถึงความหลากหลายและความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ที่เชื่อมต่อโลกกายภาพเข้ากับโลกดิจิทัล และสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลต่อวิถีชีวิต อุตสาหกรรม และสังคมในปัจจุบัน และอนาคต ความหมายของ “Things” จึงอยู่ที่ความสามารถในการเชื่อมต่อ สื่อสาร และทำงานร่วมกัน มากกว่ารูปลักษณ์หรือหน้าที่เฉพาะตัวของอุปกรณ์นั้นๆ