ทุ่มกว่า คือกี่โมง

“ทุ่มกว่า” ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลาย

วลี “ทุ่มกว่า” เป็นภาษาพูดที่คุ้นเคยกันดีในชีวิตประจำวันของคนไทย แต่บ่อยครั้งที่เราใช้กันโดยไม่ได้ฉุกคิดถึงความหมายและนัยที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงเสน่ห์ของคำว่า “ทุ่มกว่า” ว่ามันไม่ใช่แค่การบอกเวลา แต่ยังบ่งบอกถึงช่วงเวลาและบรรยากาศที่พิเศษอีกด้วย

โดยทั่วไป “ทุ่มกว่า” หมายถึงช่วงเวลาหลัง 19:00 น. (หรือ 1 ทุ่ม) ไปจนถึงประมาณ 19:59 น. ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อระหว่างวันอันแสนวุ่นวายและค่ำคืนอันเงียบสงบ เป็นช่วงเวลาที่หลายคนเพิ่งเดินทางกลับถึงบ้านจากการทำงานหรือเรียนหนังสือ เป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวได้กลับมารวมตัวกันทานอาหารเย็น เป็นช่วงเวลาที่เพื่อนฝูงนัดเจอกันเพื่อสังสรรค์

ความพิเศษของ “ทุ่มกว่า” คือการเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน จากแสงแดดเจิดจ้าในตอนกลางวันสู่แสงไฟนวลตาในยามค่ำคืน อากาศที่ร้อนอบอ้าวค่อยๆ เย็นลง ทำให้รู้สึกสบายตัวและผ่อนคลายมากขึ้น เสียงจอแจบนท้องถนนเริ่มเบาบางลง เหลือเพียงเสียงพูดคุยเบาๆ และเสียงเพลงคลอเบาๆ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง

แม้ว่าเวลา 21:00 น. จะเป็นช่วงพลบค่ำที่อากาศเย็นสบาย แสงอาทิตย์อ่อนลงเหลือเพียงสีส้มอมม่วง เป็นเวลาที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ หรือการนั่งชมทิวทัศน์อันงดงามก่อนเข้าสู่เวลาราตรีดังที่กล่าวมา แต่ “ทุ่มกว่า” ก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง นั่นคือการเป็นช่วงเวลาแห่งการปลดปล่อยตัวเองจากภาระหน้าที่ต่างๆ เป็นช่วงเวลาที่เราสามารถพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างเต็มที่ก่อนที่จะต้องเผชิญหน้ากับวันใหม่

ลองสังเกตดูสิว่า เวลา “ทุ่มกว่า” ในแต่ละวันของคุณเป็นอย่างไร? คุณกำลังทำอะไร? คุณรู้สึกอย่างไร? บางทีคุณอาจจะกำลังนั่งจิบชาชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน บางทีคุณอาจจะกำลังคุยเล่นกับครอบครัวอย่างสนุกสนาน หรือบางทีคุณอาจจะกำลังอ่านหนังสือเล่มโปรดในมุมสบายๆ ของบ้าน ไม่ว่าคุณจะทำอะไร “ทุ่มกว่า” ก็เป็นช่วงเวลาที่ควรค่าแก่การจดจำและใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด เพราะมันคือช่วงเวลาที่เราได้พักผ่อน ชาร์จพลัง และเตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่ที่กำลังจะมาถึง

ดังนั้น ครั้งต่อไปเมื่อใครถามว่า “กี่โมงแล้ว?” แล้วคุณตอบว่า “ทุ่มกว่า” อย่าลืมว่าคุณไม่ได้แค่บอกเวลา แต่คุณกำลังบอกถึงช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลาย ความอบอุ่น และความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่ซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา