โจ๊กกับข้าวต้มอันไหนอ้วนกว่ากัน

2 การดู

ข้าวต้มกุ้งมะนาวรสแซ่บ! เมนูสุขภาพแคลอรี่ต่ำ อุดมด้วยโปรตีนจากกุ้งสด วิตามินซีจากมะนาว และรสชาติจัดจ้านที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น เหมาะสำหรับมื้อเช้าที่เร่งรีบ หรือมื้อกลางวันเบาๆ ให้พลังงานเพียง 150 แคลอรี่ต่อถ้วย อร่อยและดีต่อสุขภาพ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

โจ๊กหรือข้าวต้ม? ค้นหาความจริงเรื่องแคลอรี่และสุขภาพ

หลายคนคงเคยลังเลใจระหว่าง “โจ๊ก” กับ “ข้าวต้ม” ในเช้าวันที่เร่งรีบ หรือวันที่รู้สึกไม่สบายท้อง เพราะทั้งสองเมนูต่างก็เป็นอาหารที่ย่อยง่าย อุ่นท้อง และหาทานได้ง่าย แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ แล้วอะไรที่ “อ้วน” กว่ากัน?

แม้ว่าบทความก่อนหน้าจะกล่าวถึง “ข้าวต้มกุ้งมะนาวรสแซ่บ” ว่าเป็นเมนูสุขภาพแคลอรี่ต่ำ แต่เราจะมาเจาะลึกถึงความแตกต่างระหว่างโจ๊กและข้าวต้มในภาพรวม เพื่อให้คุณสามารถเลือกทานได้อย่างชาญฉลาดและเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย

โจ๊ก: ความข้นที่มาพร้อมแคลอรี่

โดยทั่วไปแล้ว โจ๊กมักจะทำจากข้าวที่นำไปต้มกับน้ำในปริมาณมาก จนข้าวแตกตัวและมีลักษณะข้นคล้ายครีม ความข้นนี้เองที่เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โจ๊กมีแคลอรี่สูงกว่าข้าวต้ม เพราะ

  • ปริมาณข้าวที่ใช้: เพื่อให้ได้โจ๊กที่ข้นและมีรสชาติอร่อย มักจะต้องใช้ข้าวในปริมาณที่มากกว่าการทำข้าวต้ม
  • ส่วนผสมเพิ่มเติม: โจ๊กมักจะเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงหลากหลาย เช่น หมูสับ ไข่เยี่ยวม้า เครื่องในสัตว์ หรือปาท่องโก๋ ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้ล้วนเพิ่มปริมาณแคลอรี่และไขมันให้สูงขึ้น

ข้าวต้ม: ความใสที่มาพร้อมทางเลือก

ข้าวต้มทำจากข้าวสวยที่นำมาต้มกับน้ำซุปในปริมาณที่มากกว่าโจ๊ก ทำให้ข้าวมีลักษณะเป็นเม็ดเรียงตัวกันอยู่ในน้ำซุปใสๆ ข้อดีของข้าวต้มคือ:

  • ควบคุมปริมาณข้าวได้ง่าย: เนื่องจากข้าวต้มมีลักษณะเป็นเม็ด คุณจึงสามารถควบคุมปริมาณข้าวที่จะทานได้ง่ายกว่าโจ๊ก
  • ปรับเปลี่ยนส่วนผสมได้หลากหลาย: ข้าวต้มสามารถทานกับเครื่องเคียงได้หลากหลายเช่นกัน แต่คุณสามารถเลือกทานกับโปรตีนและผักต่างๆ ที่มีแคลอรี่ต่ำได้ เช่น ปลาลวก ไก่ฉีก ผักกาดขาว หรือเห็ดต่างๆ
  • น้ำซุปใสช่วยเพิ่มความสดชื่น: น้ำซุปใสๆ ของข้าวต้ม มักจะปรุงรสด้วยเครื่องเทศและสมุนไพรต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นและกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร

สรุป: อะไรอ้วนกว่ากัน?

โดยสรุปแล้ว โจ๊กมักจะมีแคลอรี่สูงกว่าข้าวต้ม หากทานในปริมาณที่เท่ากัน เนื่องจากปริมาณข้าวที่ใช้ และส่วนผสมเพิ่มเติมที่มักจะมาพร้อมกับโจ๊ก อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกทานอย่างมีสติ และคำนึงถึงส่วนผสมที่ใส่ลงไปในแต่ละเมนู

เคล็ดลับการทานโจ๊กและข้าวต้มให้ดีต่อสุขภาพ:

  • เลือกข้าวกล้อง: แทนที่จะใช้ข้าวขาว ลองเลือกข้าวกล้องในการทำโจ๊กหรือข้าวต้ม เพราะข้าวกล้องมีใยอาหารสูงกว่า และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่า
  • เน้นโปรตีนและผัก: เลือกทานโจ๊กหรือข้าวต้มกับโปรตีนไม่ติดมัน เช่น ไก่ฉีก ปลาลวก หรือเต้าหู้ และเพิ่มผักต่างๆ เพื่อเพิ่มใยอาหารและวิตามิน
  • ลดปริมาณเครื่องเคียง: หากทานโจ๊ก ลดปริมาณปาท่องโก๋ หรือเครื่องในสัตว์ และหากทานข้าวต้ม หลีกเลี่ยงเครื่องเคียงที่มีไขมันสูง เช่น หมูกรอบ หรือหนังไก่
  • ปรุงรสน้อย: ลดปริมาณน้ำปลา ซีอิ๊ว หรือผงชูรสในการปรุงรส เพื่อลดปริมาณโซเดียมที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ

ดังนั้น การเลือกทานโจ๊กหรือข้าวต้มให้ดีต่อสุขภาพ ไม่ได้อยู่ที่ว่าเมนูไหน “อ้วน” กว่ากัน แต่อยู่ที่การเลือกส่วนผสม การควบคุมปริมาณ และการปรุงรสที่เหมาะสมต่างหาก ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับโจ๊กและข้าวต้มได้อย่างสบายใจและดีต่อสุขภาพ