CEFR เทียบเท่ากับคะแนน TOEIC ระดับใด

0 การดู

ระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษตามกรอบ CEFR สามารถประมาณการได้จากคะแนนสอบ TOEIC แต่การเทียบเคียงเป็นเพียงค่าประมาณคร่าวๆ เนื่องจากการออกแบบข้อสอบและการวัดทักษะแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ผู้สอบได้คะแนน TOEIC 650 อาจเทียบเท่าระดับ B2 หรืออาจอยู่ในระดับ C1 ได้ ขึ้นอยู่กับทักษะเฉพาะด้านของผู้สอบแต่ละคน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

CEFR กับ TOEIC: ความสัมพันธ์ที่ไม่ตรงไปตรงมา และข้อควรระวังในการเทียบเคียง

ในโลกปัจจุบันที่ภาษาอังกฤษกลายเป็นภาษาสากล การประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่างแม่นยำจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง กรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาของสหภาพยุโรป (Common European Framework of Reference for Languages: CEFR) และการสอบ TOEIC (Test of English for International Communication) เป็นเครื่องมือสองชนิดที่ได้รับความนิยมในการวัดระดับภาษาอังกฤษ แต่การเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสองสิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้การตีความผลลัพธ์เป็นไปอย่างถูกต้อง

CEFR เป็นกรอบมาตรฐานที่ใช้อธิบายระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษของผู้เรียน โดยแบ่งออกเป็น 6 ระดับ คือ A1, A2, B1, B2, C1, และ C2 แต่ละระดับจะอธิบายถึงสิ่งที่ผู้เรียนสามารถทำได้ในด้านต่างๆ เช่น การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน จุดเด่นของ CEFR คือการเน้นที่ ความสามารถในการสื่อสาร จริงในสถานการณ์ต่างๆ

ในขณะที่ TOEIC เป็นการสอบที่มุ่งเน้นการวัดทักษะภาษาอังกฤษที่ใช้ใน บริบททางธุรกิจและการทำงาน ข้อสอบจะประกอบด้วยส่วนของการฟัง การอ่าน และ (สำหรับ TOEIC Speaking & Writing) การพูดและการเขียน คะแนน TOEIC จึงเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในบริษัทและองค์กรต่างๆ ทั่วโลก

ความท้าทายในการเทียบเคียง:

ถึงแม้จะมีความพยายามในการเทียบเคียงคะแนน TOEIC กับระดับ CEFR แต่สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักคือ การเทียบเคียงนี้เป็นเพียงค่าประมาณ และไม่สามารถใช้เป็นสูตรสำเร็จในการแปลงคะแนน TOEIC เป็นระดับ CEFR ได้อย่างแม่นยำ เนื่องจาก:

  • การออกแบบข้อสอบที่แตกต่าง: TOEIC เน้นที่ภาษาอังกฤษในบริบทการทำงาน ในขณะที่ CEFR ครอบคลุมสถานการณ์ที่หลากหลายกว่า
  • การวัดทักษะที่แตกต่าง: TOEIC อาจเน้นที่ทักษะบางอย่างมากกว่าทักษะอื่นๆ ทำให้ผู้ที่ทำคะแนนได้ดีในการสอบ TOEIC อาจไม่ได้มีความสามารถในทุกทักษะตามระดับ CEFR ที่เทียบเคียงได้
  • ปัจจัยส่วนบุคคล: ความถนัดและความสามารถเฉพาะด้านของผู้สอบแต่ละคนมีผลต่อผลคะแนน ดังนั้น ผู้ที่ได้คะแนน TOEIC เท่ากัน อาจมีความสามารถทางภาษาที่แตกต่างกัน

ข้อควรพิจารณาในการตีความผลลัพธ์:

เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่าง TOEIC และ CEFR ควรคำนึงถึง:

  • เป้าหมายของการประเมิน: หากต้องการวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษในบริบทการทำงาน TOEIC อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า แต่หากต้องการวัดความสามารถในการสื่อสารโดยรวม CEFR อาจเป็นกรอบที่ครอบคลุมกว่า
  • ทักษะที่ต้องการเน้น: หากต้องการประเมินทักษะเฉพาะด้าน เช่น การพูดและการเขียน ควรเลือกการสอบ TOEIC ที่มีการวัดทักษะเหล่านั้นโดยเฉพาะ
  • การประเมินเพิ่มเติม: การพิจารณาผลคะแนน TOEIC ร่วมกับข้อมูลอื่นๆ เช่น การสัมภาษณ์ หรือการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษอื่นๆ จะช่วยให้ได้ภาพรวมที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

สรุป:

การเทียบเคียงคะแนน TOEIC กับระดับ CEFR สามารถให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับความสามารถทางภาษาอังกฤษได้ แต่ควรระลึกเสมอว่าเป็นการประมาณการที่ไม่แม่นยำ การพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น และการประเมินเพิ่มเติม จะช่วยให้การตีความผลลัพธ์เป็นไปอย่างถูกต้อง และนำไปสู่การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษที่ตรงจุดมากยิ่งขึ้น