กันแดดควรมีPAกี่บวก

0 การดู

เลือกครีมกันแดดที่มีค่า PA เหมาะสมกับกิจกรรมและสภาพผิวของคุณ PA+ เหมาะสำหรับวันสบายๆ ในร่ม หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งระยะสั้น หากต้องเผชิญแสงแดดจัดนานๆ เช่น เล่นกีฬา หรือเที่ยวทะเล ควรเลือก PA+++ เพื่อการปกป้องที่ยาวนานและมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยลดความเสี่ยงผิวเสียจาก UVA ได้ดีกว่า

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เลือก PA+++ หรือ PA+ ดี? ไขข้อข้องใจเรื่องค่ากันแดด UVA

แสงแดดประกอบด้วยรังสี UVA และ UVB ทั้งสองชนิดเป็นอันตรายต่อผิว แต่ก่อให้เกิดปัญหาที่แตกต่างกัน UVB เป็นสาเหตุหลักของผิวไหม้แดง ส่วน UVA นั้นแม้จะไม่ทำให้ผิวไหม้ แต่เป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยก่อนวัย ฝ้า กระ และการเสื่อมสภาพของคอลลาเจน ค่า PA บนครีมกันแดดจึงเป็นตัวบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UVA แต่จะเลือก PA+ PA++ หรือ PA+++ ดี? คำตอบนั้นขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และระดับความเสี่ยงต่อแสงแดดของคุณ

PA+ คืออะไร? เพียงพอต่อความต้องการของคุณหรือไม่?

PA+ แสดงถึงระดับการปกป้อง UVA ในระดับปานกลาง เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน การอยู่ภายในอาคาร หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งระยะสั้นๆ ในวันที่แดดไม่จัดนัก เช่น การเดินเล่นในสวน การเดินทางโดยรถยนต์ หรือการทำธุระทั่วไป หากคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ออกแดดจัด หรือมีผิวที่ค่อนข้างทนทานต่อแสงแดด PA+ อาจเพียงพอต่อความต้องการของคุณ

PA++ และ PA+++ เกราะป้องกันที่แข็งแกร่งกว่า

PA++ และ PA+++ บ่งบอกถึงระดับการปกป้อง UVA ที่สูงขึ้น โดย PA+++ มีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันรังสี UVA เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน การทำกิจกรรมที่ต้องเผชิญแสงแดดจัด เช่น การเล่นกีฬา การท่องเที่ยวชายหาด การปีนเขา หรือการทำงานกลางแจ้ง การเลือกใช้ PA++ หรือ PA+++ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ฝ้า กระ และปัญหาผิวอื่นๆ ที่เกิดจากรังสี UVA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณา

นอกจากค่า PA แล้ว ควรพิจารณาค่า SPF ซึ่งบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UVB ควบคู่ไปกับค่า PA เพื่อให้ได้การปกป้องผิวที่ครอบคลุม ควรเลือกครีมกันแดดที่มีทั้ง SPF และ PA ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและกิจกรรมของคุณ และควรทาครีมกันแดดอย่างน้อย 15-30 นาทีก่อนออกแดด และทาซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากว่ายน้ำหรือเหงื่อออกมาก

สรุป

การเลือกค่า PA ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของคุณ หากคุณใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในร่มหรือออกแดดเพียงเล็กน้อย PA+ อาจเพียงพอ แต่หากคุณต้องเผชิญแสงแดดจัดเป็นเวลานาน PA++ หรือ PA+++ จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA และลดความเสี่ยงต่อปัญหาผิวต่างๆ อย่าลืมพิจารณาค่า SPF และวิธีการทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด และอย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุของครีมกันแดดด้วยนะคะ