กันแดด spf50 พอไหม

SPF50 พอไหม? คำตอบที่มากกว่าแค่ตัวเลข

คำถามที่หลายคนสงสัยเมื่อเลือกครีมกันแดดคือ SPF50 พอไหม? คำตอบไม่ใช่แค่ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” แต่ซับซ้อนกว่านั้น ตัวเลข SPF (Sun Protection Factor) บอกเพียงแค่ระดับการป้องกันรังสี UVB ซึ่งทำให้ผิวไหม้เกรียม แต่ไม่ได้บอกถึงการปกป้องรังสี UVA ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัยและมะเร็งผิวหนัง

SPF50 หมายความว่าครีมกันแดดนั้นสามารถป้องกันรังสี UVB ได้นานกว่าครีมกันแดด SPF15 ถึง 3.3 เท่า หรือกล่าวได้ว่าสามารถยืดเวลาการได้รับแสงแดดโดยไม่ทำให้ผิวไหม้ได้นานขึ้นเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะปลอดภัยจากแสงแดดได้ 100% SPF50 สามารถป้องกันรังสี UVB ได้สูงถึง 98% แต่การป้องกัน UVA อาจแตกต่างกันไปตามสูตรของครีมกันแดดแต่ละชนิด

ดังนั้น การใช้ครีมกันแดด SPF50 แม้จะให้การปกป้องที่ดีเยี่ยมสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การปีนเขา การเล่นกีฬาทางน้ำ หรือการท่องเที่ยวในเขตร้อน ก็ยังต้องการการดูแลเพิ่มเติม เช่น:

• การทาซ้ำ: ไม่ว่า SPF จะสูงแค่ไหน การทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือหลังจากว่ายน้ำ เหงื่อออก หรือเช็ดหน้าด้วยผ้า เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะครีมกันแดดจะเสื่อมสภาพไปตามเวลาและการเสียดสี

• ปริมาณที่เพียงพอ: การทาครีมกันแดดในปริมาณที่น้อยเกินไปจะทำให้ประสิทธิภาพการปกป้องลดลง ควรทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ รวมถึงบริเวณที่สัมผัสกับแสงแดดอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะบริเวณที่บางและบอบบาง เช่น ใบหู ริมฝีปาก และหลังมือ

• เลือกสูตรที่เหมาะสม: ผิวแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ควรเลือกครีมกันแดดที่มีสูตรเหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ เช่น ผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวแพ้ง่าย นอกจากนี้ ควรเลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารกันแดดทั้งแบบเคมีและแบบกายภาพ เพื่อการปกป้องที่ครอบคลุมทั้ง UVA และ UVB

• การป้องกันเพิ่มเติม: ควรใช้มาตรการป้องกันแสงแดดอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น สวมหมวก แว่นกันแดด และเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวหนัง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีแสงแดดจัด

สรุปแล้ว SPF50 เป็นค่า SPF ที่สูงและให้การปกป้องที่ดี แต่ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายสำหรับการปกป้องผิวจากแสงแดด การปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น และการเลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสมกับตัวเอง จะช่วยให้คุณได้รับการปกป้องผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาผิวจากแสงแดดได้อย่างแท้จริง