ดูยังไงว่าตัวเหลือง ผู้ใหญ่

6 การดู

อาการตัวเหลืองในผู้ใหญ่ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น โรคตับอักเสบไวรัส ตับแข็ง หรือการอุดตันของท่อน้ำดี สังเกตอาการเพิ่มเติม เช่น ปวดท้องด้านบนขวา คันผิวหนัง ร่วมกับการตรวจเลือดและการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆ เพื่อวินิจฉัยโรคที่แท้จริง หากมีอาการดังกล่าวควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

รู้ทัน “ตัวเหลือง” ในผู้ใหญ่: สัญญาณเตือนภัยที่ไม่ควรมองข้าม

อาการตัวเหลืองหรือภาวะดีซ่าน (Jaundice) ในผู้ใหญ่ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความผิดปกติภายในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบทางเดินน้ำดีและตับ แม้ว่าหลายคนอาจมองข้ามหรือเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงอาการเล็กน้อย แต่ความจริงแล้วมันอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยของโรคร้ายแรงที่จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที

การสังเกตอาการตัวเหลือง:

การสังเกตอาการตัวเหลืองนั้นไม่ยาก จะเห็นได้ชัดเจนจากสีเหลืองที่ปรากฏบนผิวหนังและตาขาว ความเข้มของสีเหลืองอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค นอกจากนี้ ควรสังเกตอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น:

  • ปัสสาวะสีเข้ม: ปัสสาวะอาจมีสีคล้ำกว่าปกติ คล้ายสีชาเข้ม หรือสีน้ำโคลน
  • อุจจาระสีซีด: อุจจาระอาจมีสีซีดผิดปกติ อาจเป็นสีขาวหรือสีเทาอ่อน เนื่องจากการขาดบิลิรูบิน (Bilirubin) ซึ่งเป็นสารสีเหลืองที่ขับออกมาทางอุจจาระ
  • ปวดท้องด้านบนขวา: บริเวณใต้ชายโครงขวา อาจมีอาการปวดหรือไม่สบาย ซึ่งเป็นตำแหน่งของตับ
  • คันผิวหนัง: อาการคันอย่างรุนแรงอาจเป็นอาการร่วมที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่มีภาวะดีซ่าน
  • คลื่นไส้และอาเจียน: อาการทางเดินอาหารเหล่านี้มักเป็นอาการร่วมกับโรคตับ
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ: การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วและโดยไม่ทราบสาเหตุควรได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตัวเหลืองในผู้ใหญ่:

อาการตัวเหลืองในผู้ใหญ่ สามารถเกิดจากหลายสาเหตุ สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่:

  • โรคตับอักเสบไวรัส (Viral Hepatitis): ไวรัสหลายชนิดสามารถทำลายเซลล์ตับ ส่งผลให้เกิดการสะสมของบิลิรูบินในเลือดและทำให้ตัวเหลือง
  • โรคตับแข็ง (Cirrhosis): ภาวะที่ตับถูกทำลายอย่างรุนแรง จนไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ ทำให้เกิดการสะสมของบิลิรูบิน
  • การอุดตันของท่อน้ำดี (Bile Duct Obstruction): การอุดตันของท่อน้ำดีอาจเกิดจากนิ่วในถุงน้ำดี มะเร็งตับอ่อน หรือมะเร็งท่อน้ำดี ทำให้บิลิรูบินไม่สามารถถูกขับออกจากร่างกายได้ ส่งผลให้เกิดภาวะดีซ่าน
  • โรคธาลัสซีเมีย: โรคโลหิตจางชนิดหนึ่งที่ส่งผลต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง
  • โรคเกี่ยวกับเม็ดเลือดอื่นๆ: เช่น ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกง่าย (Hemolytic Anemia)

การวินิจฉัยและรักษา:

หากคุณพบว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการตัวเหลือง ควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย สอบถามประวัติโรค และทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด การตรวจอัลตราซาวนด์ หรือการตรวจอื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงของอาการตัวเหลืองและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค ซึ่งอาจรวมถึงการใช้ยา การผ่าตัด หรือการรักษาอื่นๆ ที่จำเป็น

อย่ามองข้ามอาการตัวเหลือง! อาการตัวเหลืองอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยของโรคร้ายแรง การตรวจพบและรักษาอย่างทันท่วงทีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาสุขภาพให้ดี การปรึกษาแพทย์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเสมอเมื่อพบอาการผิดปกติ อย่าปล่อยให้ความไม่แน่ใจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อสุขภาพของคุณ

หมายเหตุ: บทความนี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง