ทํายังไงให้ตัวหายเหลือง

ตัวเหลือง…จะหายอย่างไร? มากกว่าแค่การให้นมบ่อยๆ

ภาวะตัวเหลืองหรือภาวะดีซ่านในทารกแรกเกิดเป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนกังวล แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วจะเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้บ่อยและมักหายไปเอง แต่การเข้าใจสาเหตุและวิธีการดูแลอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง บทความนี้จะเจาะลึกถึงวิธีการช่วยให้ลูกน้อยหายจากภาวะตัวเหลือง โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสังเกตอาการและการปรึกษาแพทย์ มากกว่าเพียงแค่การให้นมบ่อยๆ ดังที่หลายคนเข้าใจ

ใช่แล้ว การให้นมแม่บ่อยๆ เป็นวิธีที่ช่วยลดระดับบิลิรูบินได้ บิลิรูบินคือสารสีเหลืองที่เกิดจากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดง การให้นมแม่บ่อยๆ ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง จะช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ทำให้ร่างกายขับบิลิรูบินออกทางอุจจาระได้เร็วขึ้น นมแม่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อการพัฒนาของทารก และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แต่การให้นมแม่เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอสำหรับทารกบางรายที่ระดับบิลิรูบินสูงมาก

แสงแดดอ่อนๆ ก็มีส่วนช่วยในการลดระดับบิลิรูบินได้เช่นกัน แสงแดดจะช่วยเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของบิลิรูบิน ทำให้ร่างกายสามารถขับออกได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังอย่างยิ่ง ห้ามให้ทารกโดนแสงแดดโดยตรง ควรใช้แสงแดดที่ส่องผ่านกระจกหรือผ้าบางๆ และควรจำกัดเวลาการรับแสงแดดให้สั้นๆ เพื่อป้องกันอันตรายจากแสงแดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถูกแดดเผา

สิ่งสำคัญที่ต้องจำคือ ภาวะตัวเหลืองมีหลายระดับความรุนแรง การให้นมบ่อยๆ และการรับแสงแดดอ่อนๆ เป็นเพียงวิธีการช่วยเหลือเบื้องต้น การสังเกตอาการของลูกน้อยอย่างใกล้ชิดจึงมีความสำคัญมาก หากพบอาการต่อไปนี้ ควรพาลูกน้อยไปพบแพทย์ทันที:

• ตัวเหลืองมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสีเหลืองลามไปถึงใบหน้า ลำตัว และแขนขา
• ทารกซึม ง่วงซึม กินนมน้อยลง
• ทารกมีอาการตัวแข็ง กระสับกระส่าย ร้องไห้เสียงแหลม
• อุจจาระมีสีซีดหรือขาว
• ปัสสาวะมีสีเข้ม

แพทย์จะทำการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับบิลิรูบิน และพิจารณาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงการรักษาด้วยแสง หรือในบางกรณีอาจจำเป็นต้องได้รับการถ่ายเลือด การดูแลที่รวดเร็วและถูกต้องจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ภาวะสมองพิการจากบิลิรูบิน

สุดท้ายนี้ การดูแลทารกแรกเกิดให้แข็งแรงและปลอดภัย จำเป็นต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของลูกน้อย เพราะสุขภาพของลูกน้อยคือสิ่งสำคัญที่สุด และการป้องกันที่ดีที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสมอ