ตื่นมาตาบวมเกิดจากอะไร

1 การดู

ตาบวมในยามเช้าเป็นเรื่องปกติ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การอดนอน การแพ้ หรือการขาดน้ำ หากพบอาการบวมมาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแนวทางรักษาที่เหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ตื่นมาตาบวม…สาเหตุที่คุณอาจคาดไม่ถึง

ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าดวงตาบวมเป่ง เป็นประสบการณ์ที่หลายคนเคยพบเจอ แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การตื่นมาตาบวมนั้นบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพบางอย่างที่แอบแฝงอยู่ได้ บางครั้งอาจเป็นเพียงอาการชั่วคราวที่แก้ไขได้ง่ายๆ แต่บางครั้งก็อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงโรคที่ร้ายแรงกว่าที่ควรได้รับการตรวจสอบจากแพทย์

สาเหตุของการตื่นมาตาบวมนั้นมีความหลากหลาย เราสามารถแบ่งสาเหตุเหล่านั้นออกได้เป็นกลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้:

1. ปัจจัยภายนอกและพฤติกรรม:

  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ (อดนอน): นี่คือสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ร่างกายทำงานหนักขึ้น ระบบน้ำเหลืองอาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้ของเหลวสะสมบริเวณรอบดวงตา ยิ่งนอนน้อยเท่าไหร่ อาการบวมก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น
  • การร้องไห้: น้ำตาที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง จะไปก่อให้เกิดการบวมรอบดวงตาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการร้องไห้หนักๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน
  • การเสียดสีของผิวหนัง: การนอนทับใบหน้า การใช้ผ้าห่มหรือหมอนที่ไม่สะอาด หรือการสัมผัสกับสารระคายเคืองต่างๆ อาจทำให้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาเกิดการระคายเคืองและบวมได้
  • การดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป: สารเหล่านี้สามารถทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ ส่งผลให้ร่างกายสะสมของเหลวบริเวณรอบดวงตา
  • การใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะสม: เครื่องสำอางบางชนิดอาจก่อให้เกิดการแพ้ ทำให้เกิดอาการบวมและระคายเคืองรอบดวงตาได้ ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่อ่อนโยนและเหมาะสมกับผิวของตนเอง

2. ปัจจัยภายในและภาวะสุขภาพ:

  • การแพ้ (Allergic Reaction): การแพ้สารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เช่น เกสรดอกไม้ ฝุ่นละออง ขนสัตว์ หรืออาหารบางชนิด สามารถทำให้เกิดอาการบวม คัน และน้ำตาไหลได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเช้าหลังจากที่ร่างกายสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้มาตลอดทั้งคืน
  • ภาวะต่อมน้ำเหลืองอักเสบ (Lymphadenitis): การติดเชื้อที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณใบหน้า อาจทำให้เกิดอาการบวมที่บริเวณรอบดวงตาได้
  • โรคไต: โรคไตบางชนิดอาจทำให้ร่างกายสะสมของเหลว ส่งผลให้เกิดอาการบวมตามร่างกาย รวมถึงบริเวณรอบดวงตาด้วย
  • โรคหัวใจ: โรคหัวใจบางชนิดอาจส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด ทำให้เกิดการสะสมของเหลวและบวมได้
  • การขาดวิตามินและแร่ธาตุ: การขาดวิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิดอาจทำให้ผิวหนังบอบบางและเกิดอาการบวมได้ง่าย

ควรปรึกษาแพทย์เมื่อใด?

หากอาการตาบวมรุนแรง เป็นอยู่นาน หรือมาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น ปวดศีรษะ ไข้ หรือมีเลือดออก ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม อย่าละเลยอาการ เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคที่ร้ายแรงได้

การดูแลสุขภาพที่ดี การพักผ่อนให้เพียงพอ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ล้วนเป็นวิธีการป้องกันการตื่นมาตาบวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากอาการยังคงเป็นอยู่ การปรึกษาแพทย์ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง